ลูกยอด : น. ไข่งูจงอางฟองที่อยู่สูงสุด เรียกว่า ไข่ลูกยอด.
ลูกยาเธอ : (ราชา) น. คํานําหน้านามพระราชโอรสในสมัยปลาย รัชกาลที่ ๓ ถึงปัจจุบัน, เรียกเต็มว่า พระเจ้าลูกยาเธอ, ถ้ามีพระ มารดาเป็นเจ้า เรียกว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ.
ลูกโยน : น. ดินที่ปั้นกลมแล้วเอาต้นหญ้าทําเป็นหางสําหรับขว้าง ไล่นกซึ่งมากินข้าวในนา; เรียกข้าวเหนียวที่ผัดกับกะทิใส่เกลือ นํ้าตาล ห่อด้วยใบมะพร้าวอ่อนหรือใบเตยไว้หางยาว แล้วต้ม ให้สุก ว่า ข้าวต้มลูกโยน.
ลูกระนาด : ว. เรียกถนนที่มีผิวจราจรขรุขระมีลักษณะคล้ายลูก ระนาดหรือลูกคลื่นว่า ถนนเป็นลูกระนาด, ถนนเป็นลูกคลื่น ก็ว่า, เรียกสะพานที่เอาไม้จริงมาตีอันเว้นอันว่า สะพานลูกระนาด.
ลูกรุ่ย : น. แก้วเป็นต้นที่ทําเป็นแท่งยาว ๆ คล้ายผลต้นรุ่ยสําหรับ ห้อยเป็นระย้า, โดยปริยายเรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ลูกรุ่ยชายผ้าม่าน.
ลูกลม ๒ : น. ชื่อหญ้าชนิด Spinifex littoreus Merr. ในวงศ์ Gramineae ชอบขึ้น ตามชายทะเล ช่อดอกกลมกลิ้งไปตามลม.
ลูกล้อ : ๑ น. ส่วนของรถซึ่งเป็นวงกลมสําหรับหมุนเคลื่อนพารถไป, ล้อ ก็ว่า, โดยปริยายเรียกสิ่งที่เป็นวงกลมคล้ายลูกล้อเช่นขอบกระด้ง สําหรับเด็กตีเล่น.
ลูกลิงลูกค่าง : น. เรียกเด็กที่อยู่ไม่สุข ซุกซนมาก ชอบปีนป่าย หกคะเมนตีลังกาเป็นต้น.
ลูกสังกะสี : น. ชื่อปลากัดพันทางที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างปลาลูกหม้อ กับปลาลูกป่าซึ่งเป็นชนิด Betta splendens เช่นเดียวกัน.
ลูกหนี้ : น. ผู้เป็นหนี้, คู่กับ เจ้าหนี้; (กฎ) บุคคลผู้มีหนี้กับบุคคล อีกคนหนึ่งซึ่งเรียกว่า เจ้าหนี้.
ลูกหมด : น. เพลงสั้น ๆ จังหวะเร็ว บรรเลงต่อท้ายเพลง ๓ ชั้นเป็นต้น แสดงว่าจบการบรรเลงชุดนั้น ๆ เรียกว่า ลูกหมด คือจบหรือหมดไป ชุดหนึ่ง.
ลูกหม่อ : น. ลูกควายตัวเล็ก ๆ เรียกตามเสียงที่มันร้อง, ลูกกะแอ หรือ ลูกแหง่ ก็เรียก.
ลูกหม้อ : น. ชื่อปลากัด (Betta splendens) ในวงศ์ Anabantidae ที่ผ่านการ คัดเลือกพันธุ์จนมีลักษณะเด่นพิเศษเพื่อการต่อสู้ ครีบต่าง ๆ สั้น กว่าปลาจีน (๒); โดยปริยายหมายถึงผู้มีวิชาชีพโดยสืบต่อเชื้อสาย กันมาหรือทํางานในสังกัดนั้น ๆ มาตั้งแต่เดิม.
ลูกหลวง : น. ลูกของพระเจ้าแผ่นดิน; (โบ) เรียกเมืองเอกที่พระโอรส ของพระเจ้าแผ่นดินไปครองว่า เมืองลูกหลวง.
ลูกแหง่ : น. ลูกควายตัวเล็ก ๆ เรียกตามเสียงที่มันร้อง, ลูกหม่อ หรือ ลูกกะแอ ก็ว่า; เด็กตัวเล็ก ๆ; (ปาก) เหรียญกระษาปณ์อัน เล็ก ๆ; โดยปริยายหมายถึงคนที่โตแล้วแต่ยังติดพ่อติดแม่เป็นต้น หรือยังทำอ้อนเหมือนเด็กเล็ก ๆ.
ลูกอ่อน : น. ลูกเล็ก ๆ ที่ยังไม่หย่านม, เรียกพ่อหรือแม่ที่มีลูกเล็ก ๆ ยังไม่หย่านมว่า พ่อลูกอ่อน แม่ลูกอ่อน, โดยปริยายเรียกบุคคลที่ ช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องมีผู้อื่นคอยดูแลอย่างใกล้ชิด (มักใช้แก่ผู้สูงอายุ) เช่นเวลานี้ไปไหนไม่สะดวก เพราะมีคุณยายเป็นลูกอ่อน ต้องคอย ดูแลท่าน.
เล่งฮื้อ : น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Hypophthalmichthys molitrix ในวงศ์ Cyprinidae มีรูปร่างลักษณะถิ่นกําเนิดและแหล่งอาศัยคล้าย ปลาลิ่นฮื้อ.
เลเซอร์ : (ฟิสิกส์) น. เครื่องซึ่งแปลงลําแสงที่ผ่านเข้าไปให้ออกมาเป็นลําแสง สีเดียวที่อัดรวมกันจนมีขนาดลําแสงแคบอย่างยิ่ง และมีความเข้ม สูงมาก, เรียกลําแสงที่ได้ออกมาลักษณะเช่นนี้ว่า ลําแสงเลเซอร์. (อ. laser).
เล็ด : น. เม็ด, เมล็ด, เรียกเม็ดหรือเมล็ดผลไม้ที่มีขนาดเล็กโดยเฉพาะ บางชนิด บางทีหมายถึงส่วนในของเมล็ด. ก. ลอดออกแต่น้อย เช่น นํ้าตาเล็ด.
เล็ดงา : น. ชื่อลายผ้านุ่ง ลักษณะเป็นดอกเล็ก ๆ สีขาวขนาดเท่า เมล็ดงากระจายอยู่บนผ้าพื้นสีเข้ม.
เล็น : น. ชื่อแมลงหรือสัตว์ขนาดเล็กมาก ที่กัดหรือทําให้เกิดความ ระคายเคืองต่อร่างกาย ซึ่งอาจหมายถึงพวกไร เหา เห็บ หมัด หรือมด ก็ได้.
เล่นเพลงยาว : (โบ; สํา) ก. ลอบมีจดหมายรักต่อกัน เช่น ไม่อยากเล่น เพลงยาวชื่อฉาวเอย. (สักวาของคุณพุ่ม), เขียนหนังสือโต้ตอบกัน ไปมาไม่รู้จักจบ.
เลนส์นูน : น. เลนส์ที่มีพื้นหน้าโค้งนูนตรงกลางหนามากกว่า ตอนริม มีสมบัติหักลําแสงที่ผ่านไปให้ลู่เข้า, เลนส์ตีบแสง ก็เรียก. (อ. convex lens).
เลนส์เว้า : น. เลนส์ที่มีพื้นหน้าโค้งเว้า ตรงกลางหนาน้อยกว่า ตอนริม มีสมบัติหักลําแสงที่ผ่านไปให้ถ่างออก, เลนส์ถ่างแสง ก็เรียก. (อ. concave lens).
เล่นหาง : ว. เรียกลักษณะการเขียนหนังสือที่ตวัดปลายตัวอักษรให้ ยาวออกเกินปรกติว่า เขียนเล่นหาง; เรียกลักษณะท่าเต้นของการ เชิดสิงโตโดยม้วนตัวงับหางตัวเองว่า สิงโตเล่นหาง; อาการที่ว่าว ปักเป้าติดลมสะบัดหางพลิ้วไปมา.
เล็บครุฑ : น. ชื่อไม้พุ่มหลายชนิดในสกุล Polyscias วงศ์ Araliaceae ใบมี ลักษณะต่าง ๆ.
เล็บควาย : น. ชื่อไม้เถาชนิด Bauhinia pottsii G. Don ในวงศ์ Leguminosae พูปลายใบเว้าลึกไม่เกินครึ่งหนึ่งของแผ่นใบ ดอกมีหลายสี.
เล็บมือนาง ๑ : น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งข้าวเจ้าเป็นรูปยาว ราว ๒ องคุลี หัวท้ายเรียว ใส่น้ำกะทิจนชุ่ม โรยงาคั่วผสมน้ำตาล เกลือ และมะพร้าวทึนทึกขูดเป็นเส้น.
เล็บมือนาง ๒ : น. (๑) ชื่อไม้เถาชนิด Quisqualis indica L. ในวงศ์ Combretaceae ดอกแรกบานสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีชมพูและแดง กลิ่นหอม ออก เป็นช่อ เมล็ดใช้ทํายาได้. (๒) ชื่อกล้วยพันธุ์หนึ่งของชนิด Musa acuminata Colla ผลเล็กอย่างนิ้วมือ.
เล่ม : ลักษณนามสําหรับเรียกสิ่งของบางชนิดที่มีลักษณะยาวเรียว อย่างมีด หอก พาย เข็ม เช่น มีดเล่มหนึ่ง เข็ม ๒ เล่ม, ใช้เรียก เกวียนหรือสมุดหนังสือว่า เล่มด้วย เช่น เกวียน ๒ เล่ม หนังสือ ๓ เล่ม สมุด ๔ เล่ม.
เลา ๓ : ลักษณนามเรียกเครื่องเป่าที่มีลักษณะยาวตรงและกลมอย่างปี่ ขลุ่ย เช่น ปี่เลาหนึ่ง ขลุ่ย ๒ เลา.
เล่าเรียน : ก. ท่องบ่น เช่น เล่าเรียนคาถาอาคม, ศึกษาหาความรู้ เช่น เขาเล่าเรียนมา อย่าไปเถียงเขา, เรียกเงินที่ต้องชำระเพื่อศึกษาหา ความรู้ว่า ค่าเล่าเรียน.
เลีย : ก. แลบลิ้นกวาดบนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น เลียริมฝีปาก หมาเลียแผล แมวเลียขน; เรียกอาการของความร้อนหรือสิ่งที่เป็นเปลวเช่นไฟ ที่แลบออกมากระทบสิ่งใดแล้วทำให้สิ่งนั้นไหม้ แห้ง หรือซีดเผือด ไป เช่น ผ้าถูกแดดเลียสี ฝาบ้านถูกไฟเลียเป็นรอยไหม้; เรียกผม ตอนเหนือท้ายทอยของเด็กอ่อนที่นอนพลิกตะแคงตัวยังไม่ได้ มีลักษณะแหว่งเป็นแถบยาวตามขวาง คล้ายมีอะไรมากัดแทะไป ว่า ถูกผ้าอ้อมเลีย หรือ ผ้าอ้อมกัด; (ปาก) โดยปริยายเรียกกิริยา ประจบประแจงด้วยอาการดูประหนึ่งว่าเป็นอย่างสุนัขเลียแข้ง เลียขาเพื่อให้นายรัก.
เลียง ๑ : น. ชื่อแกงชนิดหนึ่ง ใส่ผักต่าง ๆ เช่น ตำลึง บวบ น้ำเต้า หัวปลี ยอดฟักทอง ปรุงด้วยหัวหอม พริกไทย กะปิ ตำกับกุ้งแห้งหรือ ปลาย่าง บางทีก็มีกระชายด้วย ใส่ใบแมงลักให้มีกลิ่นหอม. ก. กิริยาที่แกงเช่นนั้น เช่น วันนี้จะเลียงน้ำเต้า.
เลียง ๓ : ก. ไล่สิ่งไม่บริสุทธิ์ออก เช่น เลียงทอง, เรียกทองคำที่ไล่สิ่งไม่ บริสุทธิ์ออกแล้วว่า ทองคำเลียง.
เลี้ยงไข้ : ก. อาการที่หมอจงใจชะลอการรักษาโรคให้หายช้าเพื่อ จะเรียกค่ารักษาได้นาน ๆ.
เลี้ยงความ : ก. อาการที่ทนายความของโจทก์และจำเลยสมคบกัน ถ่วงคดีความให้ล่าช้า โดยประสงค์ที่จะเรียกค่าใช้จ่ายในการว่าความ ที่ต้องยืดเยื้อออกไป.
เลียงผา ๒ : น. ชื่อไม้เถาชนิดหนึ่ง ใบคล้ายใบดีปลี ต้นและใบสีเขียว ใช้ทํายา ได้. (พจน. ๒๔๙๓).
เลียงมัน : น. ชื่อไม้ต้น ๒ ชนิดในวงศ์ Tiliaceae คือ ชนิด Berrya cordifolia (Willd.) Burret ใบป้อม ดอกสีขาวอมเหลือง ผลมีปีกตามแนวระนาบ ๓ คู่ และชนิด B. mollis Wall. ex Kurz ใบมีขน.
เลี่ยน ๒ : ว. เตียน, เกลี้ยง, เช่น อายุยังน้อยอยู่เลย หัวล้านเลี่ยนแล้ว ถูพื้นเสีย มันเลี่ยน; มีรสมันเกินไป เช่น แกงใส่กะทิข้นมากมันจนเลี่ยน. น. เรียกแพรที่เป็นมัน ไม่มีดอกหรือลวดลาย ว่า แพรเลี่ยน.
เลียบ ๑ : น. ชื่อไม้ต้นชนิด Ficus lacor Buch. ในวงศ์ Moraceae คล้ายต้นกร่าง มักขึ้นบนต้นไม้อื่น ทําให้ต้นไม้นั้นตาย ใบและผลอ่อนกินได้.
เลียว ๒ : น. ไม้ที่ขึงใบเรือทั้งล่างและบน เรียกว่า เลียวล่าง เลียวบน, สายเชือก ที่ผูกปลายเลียวสําหรับรั้งใบเรือให้กินลม เรียกว่า สายเลียว, เขียนว่า เรียว ก็มี.
เลื่องลือ : ก. รู้กันกระฉ่อนทั่วไป เช่น ชื่อเสียงเลื่องลือ ความสามารถ เป็นที่เลื่องลือ.
เลือดเย็น ๑ : ว. มีใจเหี้ยมสามารถทำลายชีวิตหรือชื่อเสียงผู้อื่นได้ โดยไม่รู้สึกหวั่นไหว เช่น ฆ่าอย่างเลือดเย็น.
เลือดเย็น ๒ : น. สัตว์มีกระดูกสันหลังที่สามารถปรับอุณหภูมิของ ร่างกายให้เหมาะสมกับอุณหภูมิของสภาวะแวดล้อม เช่นปลา กบ เรียกว่า สัตว์เลือดเย็น.
เลือดอุ่น : น. สัตว์มีกระดูกสันหลังที่สามารถคงอุณหภูมิของร่างกาย ไว้ได้โดยไม่เปลี่ยนไปตามอุณหภูมิของสภาวะแวดล้อม เช่นคน นก เรียกว่า สัตว์เลือดอุ่น.
เลื่อน : น. ยานชนิดหนึ่งไม่มีล้อ ใช้ลากไปตามท้องนาและหมู่บ้าน สําหรับ บรรทุกฟ่อนข้าวเป็นต้น, บางถิ่นเรียกว่า กะเลิด, ยานชนิดหนึ่งใช้ แถบขั้วโลก ไม่มีล้อ ใช้สุนัขลากไปบนพื้นหิมะหรือบนพื้นนํ้าแข็ง. ก. เคลื่อนหรือย้ายจากที่เดิมโดยลักษณะอาการต่าง ๆ เช่น ลาก เสือกไส ยกขึ้น กดลง; เปลี่ยนเวลาจากที่กําหนดไว้เดิม เช่น เลื่อน เวลาเดินทาง เลื่อนวันประชุม; เขยิบชั้นหรือตําแหน่งฐานะสูงขึ้น ไปกว่าเดิม เช่น เลื่อนยศ เลื่อนตําแหน่ง; เพิ่มเติม (ใช้แก่อาหาร) เช่น เลื่อนแกง เลื่อนของหวาน.
เลื้อยคลาน : น. สัตว์เลือดเย็นจําพวกที่ผิวหนังมีเกล็ดปกคลุม หายใจ ด้วยปอดอย่างจิ้งจก จิ้งเหลน จระเข้ เต่า งู ส่วนมากวางไข่ หลายชนิด ออกลูกเป็นตัว ลูกอ่อนมีลักษณะอย่างพ่อแม่ เรียกว่า สัตว์เลื้อยคลาน, เดิมเรียกว่า สัตว์เสือกคลาน.
เลื่อยชักไม้ : น. เครื่องมือสำหรับตัดไม้ มีขนาดใหญ่ ใบเลื่อยมี ลักษณะเป็นปื้นหรือแถบยาวติดกับปลายขาคันเลื่อยทั้งคู่ มีไม้ยาว ที่เรียกว่า อกเลื่อย ยันอยู่ตรงกลาง ปลายขาคันเลื่อยด้านตรงข้าม มีเชือกคล้องรั้งและบิดเพื่อขึงใบเลื่อยให้ตึง ใช้คนชักเลื่อยคู่กัน ๒ คน.
เลื่อยตะขาบ : น. เครื่องมือสำหรับตัดหรือซอยไม้ ใบเลื่อยมีลักษณะ เป็นแผ่นแบนยาว ท้องเลื่อยหย่อนโค้ง ปลายใบเลื่อยทั้ง ๒ ข้างทำ เป็นบ้อง สำหรับสอดไม้ท่อนกลม ๆ เพื่อใช้จับชักใบเลื่อย ใช้คน ชักเลื่อยคู่กัน ๒ คน, เลื่อยยมบาล ก็เรียก.