goatish : (ADJ) ; ซึ่งมีกิเลสตัณหา ; Related:ตัณหา, ราคะ ; Syn:lecherous

libido : (N) ; ตัณหาราคะ ; Related:ความกำหนัด, ความใคร่, ความต้องการทางเพศ ; Syn:sexual desire, concupiscence

passionate : (ADJ) ; ตัณหาจัด ; Related:เร่าร้อน, ซึ่งมีความต้องการทางเพศ ; Syn:ardent

passion : (N) ; กิเลส ; Related:ตัณหา, ราคะ ; Syn:emotion, feeling ; Ant:apathy

physical : (ADJ) ; เกี่ยวกับตัณหาราคะ ; Related:เกี่ยวกับความปรารถนาทางโลก, เกี่ยวกับกิเลสตัณหา

goat : (N) ; คนที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหา

id : (N) ; ต้นกำเนิดของตัณหา (ทางจิตวิทยา) ; Related:ต้นกำเนิดของความอยาก

ตัณหา : (N) ; passion ; Related:lust, desire, craving, Tanha ; Syn:ราคะ, ความอยาก, กามารมณ์, กิเลส, ความต้องการ, ความใคร่ ; Samp:พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้พุทธศาสนิกชนหมกมุ่นกับเรื่องตัณหาราคะรวมทั้งกิเลส

ตัณหาจัด : (ADJ) ; lustful ; Related:passionate ; Syn:บ้าตัณหา, มักมากในกาม, มักมากในกามคุณ, เซ็กส์จัด, กลัดมัน ; Def:มีความรู้สึกในทางกามารมณ์รุนแรง ; Samp:หญิงบางคนยอมพลีกายให้กับชายตัณหาจัด เพียงเพราะต้องการเงิน

ตัณหาจัด : (ADJ) ; lustful ; Related:passionate ; Syn:บ้าตัณหา, มักมากในกาม, มักมากในกามคุณ, เซ็กส์จัด, กลัดมัน ; Def:มีความรู้สึกในทางกามรมณ์รุนแรง ; Samp:หญิงบางคนยอมพลีกายให้กับชายตัณหาจัด เพียงเพราะต้องการเงิน

ตัณหากลับ : (ADJ) ; lustful ; Def:ที่มีความกำหนัดขึ้นมาในวัยที่โดยปกติหมดความรู้สึกเช่นนั้นไปแล้ว ; Samp:หล่อนเป็นนายหน้าจัดหาเด็กสาวใจแตกป้อนให้เสี่ยแก่ตัณหากลับที่ต้องการเปิดบริสุทธิ์กับเด็กนักเรียนสาวๆ

ตัณหากลับ : (V) ; be sexually aroused ; Related:be sexually excited, be in heat, have passionate longing for ; Syn:กำหนัด ; Def:เกิดความกำหนัดขึ้นมาในวัยที่โดยปกติหมดความรู้สึกเช่นนั้นไปแล้ว ; Samp:ผู้เฒ่าเกิดตัณหากลับเมื่อเห็นสาวๆ สวยๆ เดินผ่าน

บ้ากาม : (ADJ) ; lecherous ; Related:lustful, satyric, nymphomaniacal ; Syn:บ้าตัณหา, ตัณหาจัด ; Def:มักมากในกาม ; Samp:โจรบ้ากามก่อคดีปล้นแล้วข่มขืน

ภวตัณหา : (N) ; desire ; Def:ตัณหาเป็นไปในภพ คือ ความอยากมี อยากเป็น อยากเกิด ; Samp:มนุษย์ทุกคนล้วนมีภวตัณหาอยู่ในจิตใจทั้งสิ้น

กามตัณหา : (N) ; sensuality ; Related:sexual desire, lust ; Syn:กิเลส ; Def:ความอยากในกามคุณทั้ง 5 ; Samp:กามตัณหาเป็นตัณหาหนึ่งที่ก่อให้เกิดทุกข์

เผา : (V) ; burn ; Syn:เผาผลาญ ; Def:ทําให้เร่าร้อน เช่น กิเลสเผา ; Samp:คุณต้องรีบดับกิเลสตัณหาที่กำลังเผาใจคุณอยู่ตอนนี้ให้หมดสิ้นไป

ฝันหวาน : (V) ; vainly hope ; Related:cherish an illusion ; Syn:เพ้อฝัน ; Def:คิดพล่านว่าจะได้สิ่งต่างๆ อย่างใจนึก ; Samp:การเผชิญหน้าด้วยกำลังทหารสนองตัณหาของบรรดาพ่อค้าอาวุธสงครามที่ฝันหวานถึงตัวเลขจำนวนมหึมาที่ได้จากซากศพและเสียงร้องของทหาร

ภูมิภาค : (N) ; region ; Related:area, part, district ; Syn:ภาค, เขต, ถิ่น ; Def:อาณาบริเวณที่มีลักษณะบางอย่าง เช่นลักษณะทางธรรมชาติ ทางเศรษฐกิจ คล้ายคลึงกันจนสามารถจัดเข้าพวกกันได้ และแตกต่างกับบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ ; Samp:สงครามยังระเบิดขึ้นตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อสนองตัณหาของบริษัทผลิตอาวุธ ; Unit:แห่ง, ที่

อรหันต์ : (N) ; Buddhist saint ; Syn:พระอรหันต์, พระพุทธเจ้า ; Def:ผู้สำเร็จธรรมวิเศษสูงสุดในพระพุทธศาสนา, ผู้บรรลุพระนิพพาน ; Samp:พระอรหันต์เป็นผู้ที่หมดจากการกระทำด้วยอำนาจของตัณหา ; Unit:องค์

อุปาทาน : (N) ; attachment ; Def:การยึดมั่นถือมั่น โดยนึกเอาเองว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นๆ, การนึกเอาเองแล้วยึดมั่นถือมั่นว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นๆ ; Samp:เขาพยายามเอาชนะอวิชชา เพื่อลดตัณหา และอุปาทาน

ตัณหา : [ตันหา] น. ความทะยานอยาก, โดยทั่วไปใช้หมายถึงความใคร่ในกาม. (ป.; ส. ตฺฤษฺณา).

รงค–, รงค์ : [รงคะ–, รง] น. สี, นํ้าย้อม; ความกําหนัด, ตัณหา, ความรัก; ที่ฟ้อนรํา, โรงละคร; สนามรบ, ลาน. (ป., ส. รงฺค).

ชาลินี : (แบบ) น. สิ่งที่มีข่าย; ตัณหา. (ป., ส.).

ปปัญจธรรม : (แบบ) น. ธรรมที่ทําให้เนิ่นช้า คือ ตัณหา มานะ ทิฐิ. (ป.).

ด้าม : น. ส่วนของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ใช้ถือใช้จับ เช่น ด้ามมีด ด้ามขวาน, ลักษณนาม เรียกของบางอย่างที่มีลักษณะเช่นนั้นว่า ด้าม เช่น ปากกาด้ามหนึ่ง ปากกา ๒ ด้าม; ต้น, ทาง, เช่น โดยด้ามอาทิสวคนธ์. (ม. คําหลวง จุลพน), ผู้เผด็จ ด้ามตัณหา. (ม. คําหลวง ฉกษัตริย์), โดยด้ามอาทิทศธรรมสนท้าว. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์), แลราชผู้มีอยู่ในด้ามมารคธรรม. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์).

ภวตัณหา : น. ตัณหาเป็นไปในภพ คือ ความอยากมี อยากเป็น อยากเกิด. (ป.).

ราชธรรม : น. จริยวัตรที่พระเจ้าแผ่นดินพึงประพฤติ, คุณธรรมของ ผู้ปกครองบ้านเมือง, มี ๑๐ ประการ เรียกว่า ทศพิธราชธรรม ได้แก่ ๑. ทาน–การให้ ๒. ศีล–ความประพฤติดีงาม ๓. ปริจจาคะ–การบริจาค, ความเสียสละ ๔. อาชชวะ–ความซื่อตรง ๕. มัททวะ–ความอ่อนโยน ๖. ตปะ–ความเพียรเครื่องเผาผลาญกิเลสตัณหา ๗. อักโกธะ–ความ ไม่โกรธ ๘. อวิหิงสา–ความไม่เบียดเบียน ๙. ขันติ–ความอดทน ๑๐. อวิโรธนะ–ความไม่คลาดธรรม. (ส.).

ดำฤษณา : [ดําริดสะหฺนา] น. ความปรารถนา, ความดิ้นรน, ความอยาก, ความเสน่หา. (ส. ตฺฤษฺณา; ป. ตณฺหา).

ตฤษณา : [ตฺริดสะหฺนา] (แบบ) น. ความปรารถนา, ความอยาก, ความดิ้นรน. (ส.; ป. ตณฺหา).

ตัณหา : ความทะยานอยาก, ความดิ้นรน, ความปรารถนา, ความเสน่หา มี ๓ คือ ๑.กามตัณหา ความทะยานอยากในกาม อยากได้อารมณ์อันน่ารักใคร่ ๒.ภวตัณหา ความทะยากอยากในภพ อยากเป็นนั่นเป็นนี่ ๓.วิภวตัณหา ความทะยานอยากในวิภพ อยากไม่เป็นนั่นไม่เป็นนี่ อยากพรากพ้นดับสูญไปเสีย

รูปตัณหา : ความอยากในรูป

ดำฤษณา : ความอยาก, ความดิ้นรน, ความปรารถนา, ความเสน่หา (ตัณหา)

ไตรวัฏ : วัฏฏะ ๓, วงวน ๓ หรือวงจร ๓ ส่วนของปฏิจจสมุปบาท หมุนเวียนสืบทอดต่อๆ กันไป ทำให้มีการเวียนว่ายตายเกิด หรือวงจรแห่งทุกข์ ได้แก่ กิเลส กรรม และวิบาก (เรียกเต็มว่า ๑.กิเลสวัฏ ประกอบด้วย อวิชชา ตัณหา อุปาทาน ๒.กรรมวัฏ ประกอบด้วย สังขาร ภพ ๓.วิปากวัฏ ประกอบด้วย วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ชาติ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส) คือ กิเลสเป็นเหตุให้ทำกรรม เมื่อทำกรรมก็ได้รับวิบากคือผลของกรรมนั้น อันเป็นปัจจัยให้เกิดกิเลสแล้วทำกรรมหมุนเวียนต่อไปอีก เช่น เกิดกิเลสอยากได้ของเขา จึงทำกรรมด้วยการไปลักของเขามา ประสบวิบากคือได้ของนั้นมาเสพเสวยเกิดสุข เวทนา ทำให้มีกิเลสเหิมใจอยากได้รุนแรงและมากยิ่งขึ้นจึงยิ่งทำกรรมมากขึ้น หรือในทางตรงข้ามถูกขัดขวาง ได้รับทุกขเวทนาเป็นวิบาก ทำให้เกิดกิเลส คือโทสะแค้นเคือง แล้วพยายามทำกรรมคือประทุษร้ายเขา เมื่อเป็นอยู่อย่างนี้ วงจรจะหมุนเวียนต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

ไตรวัฏฏ์ : วัฏฏะ ๓, วงวน ๓ หรือวงจร ๓ ส่วนของปฏิจจสมุปบาท หมุนเวียนสืบทอดต่อๆ กันไป ทำให้มีการเวียนว่ายตายเกิด หรือวงจรแห่งทุกข์ ได้แก่ กิเลส กรรม และวิบาก (เรียกเต็มว่า ๑.กิเลสวัฏ ประกอบด้วย อวิชชา ตัณหา อุปาทาน ๒.กรรมวัฏ ประกอบด้วย สังขาร ภพ ๓.วิปากวัฏ ประกอบด้วย วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ชาติ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส) คือ กิเลสเป็นเหตุให้ทำกรรม เมื่อทำกรรมก็ได้รับวิบากคือผลของกรรมนั้น อันเป็นปัจจัยให้เกิดกิเลสแล้วทำกรรมหมุนเวียนต่อไปอีก เช่น เกิดกิเลสอยากได้ของเขา จึงทำกรรมด้วยการไปลักของเขามา ประสบวิบากคือได้ของนั้นมาเสพเสวยเกิดสุข เวทนา ทำให้มีกิเลสเหิมใจอยากได้รุนแรงและมากยิ่งขึ้นจึงยิ่งทำกรรมมากขึ้น หรือในทางตรงข้ามถูกขัดขวาง ได้รับทุกขเวทนาเป็นวิบาก ทำให้เกิดกิเลส คือโทสะแค้นเคือง แล้วพยายามทำกรรมคือประทุษร้ายเขา เมื่อเป็นอยู่อย่างนี้ วงจรจะหมุนเวียนต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

ตณฺหา : (อิต.) ความกระหาย, ความระหาย, ความอยาก, ความอยากได้, ความทะยาน (ดิ้นรน), ความทะยานอยาก (อยากได้ อยากมี อยากเป็น), ความกำหนัด (ความใครในกามคุณ), ความว่องไว (ใน อารมณ์), ความสน (นิ่งอยู่ไม่ได้), ความดิ้นรน, ความปรารถนา (ในกาม), ความเสน่หา (ติดพัน), ความแส่หา (ดิ้นรน), โลภ ความโลภ (อยากใคร่ในอารมณ์), ดำฤษณา, ตฤษณา. วิ. ตสนํ ตณฺหา. ยาย วา ตสนฺติ สา ตณฺหา ตสฺ ปิปาสายํ, ณฺห, สโลโป. ตสติ ปาตุ มิจฺฉติ เอตายาติ วา ตณฺหา. ตสติ ปาปํ อิจฺฉติ เอตายาติ วา ตณฺหา. ห ปัจ แปลง ณ. ส. ตฤษณา

เอชา : (อิต.) เอชา ชื่อของตัณหา, ตัณหา, เอชา วุจฺจติ ตณฺหา. ความปรารถนาจัด, ความอยากได้จัด, ความปรารถนา. ความอยากได้, ความแสวงหา, ความหวั่นไหว. วิ เอชตีติ เอชา. เอชฺ กมฺปเน, อ. เอชนํ วา เอชา.

ตณหา : (อิต.) นางตัณหา ชื่อธิดามาร ๑ ใน ๓ คน วิ. โย ตํ ปสฺสติ ตํ ตสิตํ กโรตีติ ตณฺหา. ตสฺ นิปาสายํ ณฺห สโลโป, อิตฺถิยํ อา.

ฉนฺท : (ปุ.) สภาพผู้อาศัยจิตนอนอยู่, ความตั้ง ใจ, ความพอใจ, ความชอบใจ, ความปรา- รถนา, ความต้องการ, ความอยาก, ความอยากได้, ความมุ่งหมาย, ความยินดี, ความรัก, ความรักใคร่, ความสมัคร, ความสมัครใจ, ความเต็มใจ, ความอยู่ในอำนาจ, อัธยาศัย, ตัณหา, พระเวท. ฉนฺทฺ อิจฺฉายํ, อ. ส. ฉนฺท. ฉนฺท ฉันท์ ชื่อคำประพันธ์อย่าง ๑ มีหลาย ชื่อ มีหลักการวางคำ ครุ ลหุ และจำนวน คำแต่ละบาทต่างๆ กัน วิ. วชฺชํ ฉาทยตีติ ฉนฺทํ. ฉทฺ สํวรเณ, อ, นิคฺคหิตาคโม. ส. ฉนฺทสฺ.

วาน : นป. เครื่องร้อยรัด, ตัณหา