กะลิ้มกะเหลี่ย : (V) ; flirt ; Syn:เจ้าชู้ ; Samp:นี่เธอ อย่ามากะลิ้มกะเหลี่ยแถวนี้บ่อยนักนะ

เข้าพระเข้านาง : (V) ; flirt ; Related:be romantic, to court ; Def:แสดงบทโอ้โลม, แสดงบทเกี้ยวพาราสี ; Samp:พอเขาจะเข้าพระเข้านางกัน ใยนี่ต้องเข้ามาขัดทุกทีเลย

เจ้าชู้ : (V) ; flirt ; Related:be licentious ; Syn:หลายใจ ; Ant:รักเดียวใจเดียว ; Def:ู้ใฝ่ในการชู้สาว ; Samp:เขาบอกแม่ว่า ระวังลูกชายคนโตจะเจ้าชู้ หักอกผู้หญิงไม่เลือกหน้า

ระริกระรี้ : (V) ; flirt ; Related:giggle mirthfully ; Def:แสดงดีใจเป็นอย่างมาก ; Samp:เธออายุปูนนี้แล้ว ยังอุตส่าห์มีคนมาติดพัน จะไม่ให้ระริกระรี้ได้ยังไงล่ะ

อ่อยเหยื่อ : (V) ; flirt ; Related:tease, seduce, pose sexily ; Syn:อ่อย ; Def:ใช้ในความหมายเชิงชู้สาวหมายถึง หญิงสาวที่ทำท่ายั่วผู้ชายเพื่อให้ผู้ชายมาหลงไหล

จับไก่ : (V) ; flirt with a girl/woman ; Def:จีบหญิงไปเพื่อเสพสุข ; Samp:ลูกชายของเขาไม่ทำมาหากินอะไร วันๆ เอาแต่จับไก่เพื่ออวดเพื่อน

แพละโลม : (V) ; flirt with ; Related:dally, wanton, court ; Syn:แพะโลม, แทะโลม, พูดเกี้ยว ; Def:พูดเลียบเคียงทางชู้สาว ; Samp:เขาชอบแพละโลมสาวๆ ทุกคนที่อยู่ใกล้ ไม่ว่าใครเขาก็ไม่เว้น

หยอกเอิน : (V) ; dally ; Related:flirt ; Syn:เล้าโลม ; Samp:แดงฟังพี่บัวกับผัวคุยกันหยอกเอินกันกระเซ้าเย้าแหย่กันอย่างงงๆ

เกาะแกะ : (V) ; approach ; Related:flirt, take liberties with(a woman) ; Def:พูดเชิงเกี้ยวพาราสี, พูดพาดพิงเชิงชู้สาว ; Samp:ถ้าคนอื่นรู้ว่าหล่อนเป็นลูกสาวนักเลงโต ก็ไม่มีใครเกาะแกะ รบกวนหรือรังแก

ปล่อยตัว : (V) ; let (oneself) go sexually ; Related:flirt, permit oneself liberties ; Syn:ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ; Def:ไม่สงวนตัว ; Samp:ถ้าผู้หญิงปล่อยตัวจนเกินไปก่อนแต่งงานอาจถูกสังคมติฉินนินทาได้

ปล่อยตัว : (V) ; let (oneself) go sexually ; Related:flirt, permit oneself liberties ; Syn:ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ; Def:ไม่สงวนตัว ; Samp:ถ้าผู้หญิงปล่อยตัวจนเกินไปก่อนแต่งงานอาจถูกสังคมติฉินนินทาได้

ให้ท่า : (V) ; encourage ; Related:flirt, make eyes at, make sheep's eyes at, chat someone up ; Syn:ให้ท่าให้ทาง ; Def:พูดหรือแสดงกิริยาให้รู้ว่ายินดีติดต่อด้วยหรือไม่รังเกียจ ; Samp:ผู้หญิงมันให้ท่า ใครบ้างจะไม่อยากเอาของฟรี

เกี้ยว 1 : (V) ; court ; Related:woo, entice, encircle, flirt, bind around ; Syn:จีบ, เกี้ยวพาราสี, เกี้ยวพาน ; Def:พูดให้รักในเชิงชู้สาว, พูดแทะโลม, พูดเลียบเคียงเพื่อให้สมปรารถนา ; Samp:ในงานประเพณี ผู้ชายสามารถเต้นรำได้ตลอดคืน รวมทั้งสามารถเกี้ยวผู้หญิงได้จนข้ามคืน

เกี้ยวพาน : (V) ; court ; Related:woo, entice, encircle, assail, flirt ; Syn:จีบ, เกี้ยวพาราสี, เกี้ยว ; Def:พูดเกี้ยว ; Samp:หญิงไทยไม่มีสิทธิ์ที่จะไปรักใคร่ชอบพอ หรือเกี้ยวพานชายคนใดก่อน เพราะถือเป็นเรื่องเสื่อมเสียเกียรติอย่างร้ายแรง

เกี้ยวพาราสี : (V) ; court ; Related:woo, entice, encircle, flirt ; Syn:เกี้ยว, จีบ, เกี้ยวพาน ; Def:พูดเกี้ยว ; Samp:พฤติกรรมการคุกคามทางเพศ มีอยู่หลายระดับด้วยกัน ตั้งแต่พูดจาแทะโลม เกี้ยวพาราสี จนถึงจับเนื้อต้องตัวโดยไม่สมควร

เล่นหูเล่นตา : (V) ; give the glad eye ; Related:flirt with the eyes, make eyes at someone, wink at someone ; Def:แสดงอาการยียวนด้วยสายตา, แสดงอาการให้ท่าด้วยสายตา ; Samp:ผู้หญิงบางคนชอบเล่นหูเล่นตากับผู้ชายอย่างไม่อาย

ก้อร่อ : (V) ; pose ; Related:affect, strike on attitude, flirt with, coquette with ; Syn:ก้อร่อก้อติก ; Def:แสดงอาการเจ้าชู้ ; Samp:ยามที่ว่างงานเขาก้อร่อผู้หญิงไปทั่วตามประสาผู้ชายเจ้าชู้

ก้อร่อก้อติก : (V) ; pose ; Related:affect, strike on attitude, flirt with, coquette with ; Syn:ก้อร่อ ; Def:แสดงอาการเจ้าชู้ ; Samp:เขาเป็นหนุ่มสำอางเจ้าชู้ วันๆ ก้อร่อก้อติกกับสาวไปทั่ว

แทะโลม : (V) ; court ; Related:advances, flirt (with), woo ( a woman) ; Syn:เกี้ยวพา, เกี้ยว ; Samp:เขาแทะโลมเธอด้วยถ้อยคำหยาบคาย

เมียงม่าย : (V) ; to glance furtively at (as a girl flirting) ; Related:take a furtive glance ; Syn:เมียง, เมียงมอง