พีภจฺฉทสฺสน : นป. การเห็นแจ้ง, การเห็นเป็นสิ่งน่าสยดสยองหรือน่ากลัว
พุทฺธกร, พุทฺธการก : ค. (ธรรม) ที่ทำให้เป็นพระพุทธเจ้า
พุทฺธการกธมฺม : (ปุ. นปุ.) ธรรมอันทำความเป็นพุทธะ, พุทธการกธรรม คือ บารมี ๑๐.
พุทฺธโกลาหล : นป. ความแตกตื่นอยากดูเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมา
พุทฺธคต : ค. (สติ) ที่เป็นไปในพระพุทธเจ้า, ที่น้อมไปในพระพุทธเจ้า
พุทฺธคาถา : อิต. พระดำรัสของพระพุทธเจ้าที่เป็นคำกวี
พุทฺธงฺกุร : ป. หน่อเนื้อแห่งพุทธะ, ผู้ซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าในกาลภายภาคหน้า
พุทฺธงกุร พุทฺธางฺกุร : (ปุ.) หน่อของพุทธะ, หน่อของ พระพุทธเจ้า, พุทธังกูร พุทธารกูร ผู้ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า.
พุทฺธญาณ : นป. ญาณของพระพุทธเจ้า, ความรู้ที่กว้างขวางไม่มีขอบเขตจำกัด
พุทฺธปญฺญตฺติ : อิต. บัญญัติของพระพุทธเจ้า, ข้อกำหนดทางพระวินัย ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงวางไว้เป็นสิกขาบท
พุทฺธปฺปาท พุทฺธุปฺปาทกาล : (ปุ.) กาลเป็นที่บังเกิดแห่งพระพุทธเจ้า, เวลาที่พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลก (โลกยุคมีพระพุทธเจ้า).
พุทฺธมนฺต : นป.พุทธมนต์, พระดำรัสอันแฝงไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้งของพระพุทธเจ้า
พุทฺธมามก : (นปุ.) ผู้ถือพระ พุทธเจ้าว่าเป็นของของเรา, ผู้ถือพระพุทธเจ้าว่าเป็นของเรา, ผู้ถือพระพุทธ ศาสนาว่าเป็นของเรา, ผู้ที่ประกาศตนว่าเคารพนับถือพระพุทธศาสนา.
พุทฺธลีลา : อิต. ความสง่างามในการเคลื่อนไหวของพระพุทธเจ้า
พุทฺธวสฺส : (ปุ. นปุ.) ปีของพระพุทธเจ้า. นับตั้งแต่พระพุทธเจ้าปรินิพพานมาครบ ๑๒ เดือน ครั้ง ๑ เป็นพุทธพรรษ พุทธสก ๑ ในสันสกฤต ได้รูปเป็น พุทธศักราช จึงใช้อักษรย่อปีซึ่งนับแต่พระพุทธเจ้าปรินิพพานว่า พ.ศ.
พุทฺธสก : (นปุ.) ปีของพระพุทธเจ้า. นับตั้งแต่พระพุทธเจ้าปรินิพพานมาครบ ๑๒ เดือน ครั้ง ๑ เป็นพุทธพรรษ พุทธสก ๑ ในสันสกฤต ได้รูปเป็น พุทธศักราช จึงใช้อักษรย่อปีซึ่งนับแต่พระพุทธเจ้าปรินิพพานว่า พ.ศ.
พุทฺธานุสฺสติ : อิต. สติอันเป็นไปในพระคุณของพระพุทธเจ้า, การระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า
พุทฺธาภิเสก : (ปุ.) การได้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้า, พุทธาภิเษก. พุทธาภิเษกไทยใช้เป็นชื่อของพิธีกรรม มีพระสงฆ์สวดสรรเสริญคุณ มีพระอาจารย์นั่งปรกในการหล่อ พิมพ์ พระพุทธรูป หรือ รูปเปรียบ รูปเหมือน หรือวัตถุต่างๆ หรือเมื่อหล่อหรือพิมพ์แล้ว เพื่อบรรจุพลังจิตลงไปในรูปหรือวัตถุนั้นๆ ไม่ใช่ปลุกพระพุทธเจ้าดังที่บางท่านเข้าใจ เพราะพระพุทธเจ้าทรงเป็นพุทธะแล้ว.
พุทฺธารมฺมณ, พุทฺธาลมฺพน : ค. มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
พุทฺธิมนฺตุ : ค. ผู้ฉลาด, ผู้มีความรู้, ผู้มีปัญญา
พุนฺทิกาพทฺธ : (ปุ.) เตียงมีแม่แคร่เนื่องเป็นอันเดียวกันกับขา.
โพชฺฌงฺค : (ปุ.) ธรรมเป็นองค์แห่งธรรมเครื่องตรัสรู้, ธรรมเป็นองค์แห่งญาณเครื่องตรัสรู้, โพชฌงค์ ชื่อ พระปริตรที่พระสงฆ์สวดให้คนเจ็บไข้ฟัง มีธรรมะ ๗ ข้อ.
โพชฺฌงฺคม : ป.การดำเนินไปสู่ปัญญาหรือธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้
โพธ : (ปุ.) อันรู้, อันตรัสรู้, อันเข้าใจ, อันฉลาด, ความรู้, ฯลฯ. พุธฺ โพธเน, โณ.
โพธน : (นปุ.) อันรู้, อันตรัสรู้, อันเข้าใจ, อันฉลาด, ความรู้, ฯลฯ. พุธฺ โพธเน, โณ.
โพธิ : (ปุ.) โพธิ์ ไม้โพธิ์ ต้นโพธิ์ ชื่อต้นไม้ ซึ่งเจ้าชายสิทธัตถะเมื่อทรงผนวชเป็นพระมหาบุรุษแสวงหาโมกขธรรมได้เสด็จประทับบำเพ็ญเพียรแล้วได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า. วิ. สพฺพญฺญุตญฺ ญาณํ พุชฺฌติ เอตฺถาติ โพธิ. พุธฺ อวคมเน, อิ.
โพธิปกฺขิก, โพธิปกฺขิย : ค. (ธรรม) ซึ่งเป็นฝักฝ่ายแห่งการตรัสรู้, ซึ่งเป็นแนวทางแห่งการตรัสรู้
โพธิมณฺฑ : (ปุ.) ประเทศเป็นที่ผ่องใสแห่งปัญญาชื่อว่า โพธิ, ประเทศเป็นที่ผ่องใสแห่งโพธิญาณ.
โพธิสตฺต : (ปุ.) สัตว์ผู้มีปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้, มนุษย์ผู้มีปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้, บุคคลผู้ข้องอยู่ในพระโพธิญาณ, พระโพธิสัตว์ คือ สัตว์ผู้ข้องอยู่ในพระโพธิญาณ ได้แก่ ท่านผู้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า.
โพธิสมฺภาร : (ปุ.) บารมีธรรมเป็นเครื่องอุดหนุนแก่พระโพธิญาณ, โพธิสมภาร คือ บุญบารมีที่ได้สะสมไว้แต่หนหลังบุญบารมีของพระมหากษัตริย์.
โพเธตุ : (วิ.) ผู้ยังหมู่สัตว์ให้ตื่น, ผู้ปลุก. พุธฺ ธาตุในความตื่น เณ ปัจ. เหตุ. ตุ ปัจ.
ภณฺฑคพฺภ : (ปุ.) ห้องเป็นที่เก็บไว้ซึ่งภัณฑะ, ห้องเก็บของ.
ภณฺฑาคาร : (ปุ. นปุ.) เรือนเป็นที่ไว้ของ, เรือนสำหรับเก็บของ, โรงไว้ของ, โรงเก็บของ, เรือนคลัง, กุดัง, โกดัง, คลังสิ่งของ, คลังสินค้า.
ภเณ : (อัพ. นิบาต) พนาย, แน่พนาย, เป็นคำสำหรับผู้มีศักดิ์สูงกว่า พูดกับผู้มีศักดิ์ต่ำกว่า.
ภทฺท :
(วิ.) งาม, ดี. (ตรงข้ามกับชั่ว), ดีนัก, เป็นที่ชอบใจ, เป็นสุข, เจริญ ,จำเริญ, เรือง, รุ่งเรือง, ผุดผ่อง, ประเสริฐ, น่ารัก, น่าชม, สบาย, สำราญ, สวัสดี, เป็นมงคล, หล่อ (งาม). ภทิ กลฺยาณสุขภาเวสุ, โท, รูปฯ ๖๕๕. ดู ภทฺร ด้วย.
ภทฺทกปฺป : (ปุ.) กัปอันเจริญ, คือ กัปปัจจุบันนี้ ที่จัดเป็นภัทรกัป เพราะมีพระโพธิสัตว์มาตรัสรู้ถึง ๕ พระองค์
ภทฺทา, ภทฺทิกา : อิต. หญิงที่มีความเจริญดี
ภทฺธ : (วิ.) มีพรหมเป็นเทวดา?
ภทนฺต, ภทฺทนฺต : ค. ท่านผู้เจริญ, พระผู้เป็นเจ้า, พระคุณเจ้า (ใช้สำหรับพระสงฆ์)
ภนฺเต ภทนฺเต : (อัพ. นิบาต) เป็นคำสำหรับฆราวาสพูดกับนักบวช หรือนักบวชผู้มีพรรษาอ่อนพูดกับนักบวชผู้มีพรรษาแก่กว่า แปลว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ท่านเจ้าข้า เจ้าข้า พระเจ้าข้า พระพุทธเจ้าข้า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ, ฯลฯ.
ภพฺพตา : อิต. ความสามารถ, ความเหมาะสม
ภพฺพรูป : (วิ.) ผู้ควรเป็นรูป, ผู้มีรูปสมควร.
ภมน : (นปุ.) การหมุนไป, การแล่นไป, ความหมุนไป, ความแล่นไป. ยุ ปัจ.
ภย : (วิ.) สะดุ้ง, กลัว, หวาด, เป็นที่กลัว.
ภยงฺกร ภยานก : (นปุ.) สิ่งอันน่าสพึงกลัว. ความขลาด, ฯลฯ.
ภยาคติ : (อิต.) ความลำเอียงอันเกิดจากความกลัว, ความลำเอียงเพราะความกลัว.
ภยูปรต : (วิ.) ผู้มีความกลัวยังไม่สิ้น, ผู้ยังมีความกลัว. ภย+อุปรต.
ภวงฺคจิตตฺ : (นปุ.) จิตเป็นองค์แห่งภพ, จิตตกลงสู่กระแสภวังค์, จิตเป็นภวังค์, ภวังคจิต คือ จิตตกลงสู่กระแสภวังค์ เป็นอยู่โดยไม่รู้สึกตัว สืบต่อไว้ซึ่งภพ บังเกิดติดต่อกันดุจกระแสน้ำไหล ทำหน้าที่รักษาภพชาติให้ดำรงอยู่ อีกบรรยายหนึ่งจิตที่เกิดต่อจากปฏิสนธิ จิตทำหน้าที่รักษาภพชาติให้ดำรงอยู่เท่าที่อายุของสังขารจะอยู่ได้ในภพที่ปฏิสนธิ (เกิด) นั้น เกิดดับโดยไม่ขาดสายจนกว่าจะถึงจุติจิต (ตาย) จิตนั้นจะขาดจากภวังค์เมื่อขึ้นสู่วิถีรับอารมณ์ทางทวารทั้ง ๖ ก็ขาดจากภวังค์ เมื่อรับอารมณ์แล้ว จิตก็ตกกระแสภวังค์ต่อไป วนอยู่อย่างนี้.
ภวนิกฺขมน : (นปุ.) อันออกไปจากภพ, ความออกไปจากภพ.
ภวนิสฺสรณ : (นปุ.) ธรรมชาติเป็นเครื่องออกไปจากภพ, ธรรมชาติเป็นเครื่องสกัดออกจากภพ.