สุภกิณฺห : (ปุ.) สุภกิณหะ ชื่อภพเป็นที่อุบัติของสุภกิณหพรหม เป็นชั้นที่ ๙ ใน ๑๖ ชั้น ชื่อรูปพรหมชั้นที่ ๙ (ผู้มีรัศมีสวยงามตลอดทั่วไปทั้งร่างกาย). ลง ก สกัด เป็น สุภกิณฺหก บ้าง.
สุรเชฎฺฐ : (ปุ.) สุรเชฏฐ์ ชื่อพระพรหมชื่อ ๑ ใน ๘ ชื่อ, พระพรหม. วิ. สุรานํ ณานาทิคุเณหิ เขฎโฐติ สุรเชฎโฐ.
สุรเชฏฺฐ : ค. ผู้เจริญที่สุดในเทวดา, พระพรหม
อชฺฌายก : (ปุ.) คนผู้ศึกษา, นักเรียน, นักศึกษา.อธิปุพฺโพ, อิ อุจฺจารเณ สิกฺขเณวา, ณฺวุ.
อฏฺฐกถาจริย : ป. พระอรรถกถาจารย์
อตปฺป : (ปุ.) อตัปปะ (ไม่เดือดร้อน)ชื่อรูปพรมชั้นที่ ๑๓ ชื่อภพเป็นที่อุบัติของอตัปปพรหมชื่อของพรหมผู้ไม่มีความเดือดร้อนใจ.วิ. น ตปฺปนฺตีติอตปฺปา.
อติพฺรหฺมา : ป. ท้าวมหาพรหม, พระพรหม, ผู้เป็นใหญ่ยิ่ง
อธิพฺรหฺมา : ป. อธิพรหม, พรหมผู้ยิ่งใหญ่
อโธคม : (ปุ.) อโธคมะชื่อลมในกายอย่างหนึ่งในหกอย่างคือลมพัดลงเบื้องต่ำ.วิ.อุจฺจารปสฺสาวาทีนํนีหรณวเสนอโธภาคํคจฺฉตีติอโธคโม.
อนุสาวนาจริย : (ปุ.) อนุสาวนาจารย์ชื่อพระคู่สวดในการอุปสมบทซึ่งนั่งซีกข้างซ้ายมือของที่ประชุมสงฆ์ (ซ้ายมือของพระอุปัช-ฌาย์).
อปเทส : (ปุ.) คำกล่าว, คำบอกเล่า, คำชี้แจง, คำอ้างอิง, ข้ออ้างอิง, การกล่าวอ้าง, เหตุ, การโกง.อปปุพฺโพ, ทิสฺ อุจฺจารเณ, โณ.
อปฺปมาณสุภ : (ปุ.) อัปปมาณสุภะชื่อภพของรูปพรหมชั้นที่ ๘ ชื่อพรหมผู้เกิดในภพนั้น
อปฺปมาณาภ : (ปุ.) อัปปมาณาภะชื่อภพของรูปพรหมชั้นที่ ๕ชื่อพรหมผู้เกิดในภพนั้น.
อรูปฐายี : ค. ซึ่งดำรงอยู่ในชั้นอรูปพรหม
อรูปตณฺหา : อิต. ความอยากเป็นผู้ไม่มีตัวตน, ความอยากเกิดในชั้นอรูปพรหม
อรูปาวจรภูมิ : (อิต.) ภูมิเป็นที่ท่องเที่ยวไปของพรหมผู้ไม่มีรูป, ภูมิที่เป็นที่เกิดของอรูป-พรหม, ที่เกิดของอรูปาวจรวิบาก.
อวจรก (โอจรก) : ค. นักสอดแนม, จารบุรุษ, คนที่มีนิสัยชั่ว
อวิห : (ปุ.) อวิหะชื่อของรูปพรหมชั้นที่ ๑๒ชื่อของภพเป็นที่เกิดของอวิหพรหมชื่อของพรหมผู้ไม่ละสถานที่ของตนโดยเวลาเล็กน้อย.วิอปฺปเกนกาเลนอตฺตโนฐานนวิชหนฺตีติอวิหา.พรหมผู้ไม่เสื่อมจากสม-บัติของตนวิ.อตฺตโนอตฺตโนสมฺปตฺติยานหายนฺตีติอวิหา.
อวิหา : อิต. ชื่อพรหมชั้นสุทธาวาสชั้นแรก
อสัญฺญสตฺต : (ปุ.) สัตว์ผู้ไม่มีสัญญา, อสัญญีสัตว์ชื่อของพรหมพวกหนึ่งมีแต่รูป ไม่มีสัญญา.
อากาสานญฺจายตนภูมิ : (อิต.) อากาสานัญจาย-ตนภูมิชื่อภูมิของอรูปพรหมที่๑.
อากิญฺจญฺญายตนภูมิ : (อิต.) อากิญจัญญยตนภูมิชื่อภูมิของอรูปพรหมชั้นที่ ๓
อาภสฺสรพฺรหฺม : ป. อาภัสสรพรหม, ชื่อพรหมโลกชั้นหนึ่ง, พรหมที่มีแสงสว่างสุกใสซ่านออกจากกาย
อาเมณฺฑิต : (นปุ.) อาเมณฑิตพจน์คือคำกล่าวซ้ำๆในเพราะเหตุกลัวโกรธสรรเสริญรีบด่วน แตกตื่น อัศจรรย์ ร่าเริง โศก หรือเลื่อมใสเช่นงู ๆ, พุทโธ ๆ.อาปุพฺโพทฺวตฺติกฺขตฺตุมุจฺจารเณวตฺตติ, เมฑิอุมฺมา-ทเน, โต, อิอาคโม.
อุทาน : (นปุ.) การเปล่ง, คำเปล่ง, คำที่เปล่ง ขึ้นทันที. อุปุพฺโพ, อิ อุจฺจารเณ, ยุ, ทฺ อาคโม, แปลง อิ เป็น อา.
อุปเทส : (ปุ.) คำสอนอันมาแล้วแต่อาจารย์ใน ปางก่อน, คำสอนที่สืบกันมาแต่อาจารย์ ในปางก่อน, อุบายเป็นเครื่องเข้าไปแสดง อ้าง, การแนะนำ, การสั่งสอน, การชี้แจง, คำแนะนำ, ฯลฯ. วิ. อาจาริยํ อุปคนฺตฺวา ทิสฺสตีติ อุปเทโส. อุปปุพฺโพ, ทิสฺ อุจฺจารเณ, โณ. ส. อุปเทศ.
อุปนิกฺขิตฺตก :
๑. ป. จารบุรุษ, คนสืบความลับ;
๒. ค. ดู อุปนิกฺขิตฺต
อุปนิกฺขิต อุปนิกฺขิตฺต : (ปุ.) คนสอดแนม, จารบุรุษ. อุป+นิ+ขิปฺ+ต ปัจ.
โองฺการ : (ปุ.) คำเปล่ง, โองการ (คำศักดิ์ สิทธิ์). อุจฺ สทฺเท, อาโร. พฤทธิ์ อุ เป็น โอ นิคคหิตอาคม แปลง จฺ เป็น ก ทาง พราหมณ์ (ฮินดู) หมายเอกพระเจ้าทั้ง ๓ คือ พระพรหม พระวิษณุ และ พระศิวะ.