soppy : (ADJ) ; โชก ; Related:แฉะ, ชุ่ม ; Syn:wet, soaked, watery, rainy

saturated : (ADJ) ; ท้วมท้น ; Related:โชก, เปียกชุ่ม ; Syn:drenched, soggy

soggy : (ADJ) ; เปียกโชก ; Related:ชุ่มโชก ; Syn:mushy, saturated, soaked, wet ; Ant:dry

wet : (ADJ) ; เปียก ; Related:แฉะ, ชุ่มไปด้วยน้ำ, โชก, ชื้นแฉะ ; Syn:damp, moist ; Ant:dry

clump : (SL) ; ชก

drench : (VT) ; ทำให้เปียกโชก ; Related:ทำให้ชุ่ม ; Syn:dowse, soak, saturate

imbue : (VT) ; ้ชุ่มโชกด้วย ; Syn:saturate, soak

โชกเลือด : (V) ; be drenched in blood ; Related:drip with blood ; Def:ต่อสู้หรือถูกกระทำจนบาดเจ็บสาหัส ; Samp:ร่างของเหยื่อเคราะห์โชกเลือดแต่ยังมีลมหายใจอยู่

ชุ่ม : (V) ; be soaked ; Related:dampen, be moist, be humid, be damp, be wet, be drenched ; Syn:โชก, เปียก, ฉ่ำ, เปียกแฉะ ; Ant:แห้ง ; Def:มีน้ำหรือของเหลวซึมซาบเอิบอาบอยู่ ; Samp:ผิวหนังของเราชุ่มไปด้วยเหงื่อ

โซก : (V) ; soak ; Related:be soggy ; Syn:โชก, อาบ ; Def:เปียกมากจนไหลอาบไปทั่ว ; Samp:เด็กๆ วิ่งเล่นจนเหงื่อโซกไปทั้งตัว

เปียกโชก : (V) ; soak ; Related:saturate, drench, wet thoroughly ; Syn:เปียกปอน ; Samp:ผมถูกฝนจนเสื้อกางเกงเปียกโชกไปทั้งตัว

ชก : (V) ; box ; Related:punch, pummel, strike, smash ; Syn:ต่อย ; Samp:นักมวยคนนี้ชกเก่งมาก ชนะทุกครั้งที่ขึ้นเวที

เปียกแฉะ : (ADJ) ; wet ; Related:soak, drip, muddy, damp ; Syn:เปียก, โชก, แฉะ, เปียกน้ำ, เปียกปอน ; Ant:แห้ง ; Samp:เนื้อตัวของป้อมเลอะเทอะเพราะหกล้มลงไปบนดินที่เปียกแฉะ

เปียกแฉะ : (V) ; get wet ; Related:soak, drip ; Syn:เปียก, โชก, แฉะ, เปียกน้ำ, เปียกปอน ; Ant:แห้ง ; Samp:ผ้าอ้อมของลูกเปียกแฉะไปหมดแล้ว ต้องรีบเปลี่ยนใหม่

โชก, โชก ๆ : ว. มากจนไหลอาบไปทั่ว เช่น เสื้อเปียกโชก เหงื่อโชก ราดนํ้าแกงโชก ๆ.

เปียกโชก : ก. เปียกชุ่มทั่วตัว เช่น น้ำเปียกโชก เหงื่อเปียกโชก.

สรสรก : [สะระสก] ว. โซก, ซ่ก, โชก, เช่น แล้วมันก็เชือดเอาหัวใจนาง เลือดตก พลางสรสรก แล่นฉวยฉกหาไปบอยู่แล. (ม. คำหลวง กุมาร).

ชก : ก. ต่อยด้วยหมัดหรือกําปั้น.

กรร- ๓ : [กัน-] ใช้เป็นพยางค์หน้า (ซึ่งโบราณเขียนเป็น กนน หรือ กัน ก็มี) แทน กระ เช่น กรรชิง - กันชิง - กระชิง, กรรเช้า - กรนนเช้า - กระเช้า, กรรเชอ - กนนเชอ - กระเชอ, กรรโชก - กันโชก - กระโชก, กรรพุ่ม - กระพุ่ม, กรรลึง - กระลึง.

อุบลวรรณา : พระมหาสาวิกาองค์หนึ่ง เป็นธิดาเศรษฐีในพระนครสาวัตถี ได้ชื่อว่าอุบลวรรณาเพราะมีผิวพรรณดังดอกนิลุบล (อุบลเขียว) มีความงามมาก จึงเป็นที่ปรารถนาของพระราชาในชมพูทวีป หลายพระองค์ ต่างส่งคนมาติดต่อท่านเศรษฐีเกิดความลำบากใจ จึงคิดจะให้ธิดาบวชพอเป็นอุบายแต่นางเองพอใจในบรรพชาอยู่แล้ว จึงบวชเป็นภิกษุณีด้วยศรัทธาอย่างจริงจัง คราวหนึ่งอยู่เวรจุดประทีปในพระอุโบสถ นางเพ่งดูเปลวประทีปถือเอาเป็นนิมิตเจริญฌานมีเตโชกสิณเป็นอารมณ์ได้บรรลุพระอรหัต ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางแสดงฤทธิ์ได้ต่างๆ และเป็นอัครสาวิกาฝ่ายซ้าย

โกลิตปริพาชก : พระโมคคัลลานะเมื่อเข้าไปบวชเป็นปริพาชกในสำนักของสัญชัย มีชื่อเรียกว่า โกลิตปริพาชก

อุปติสสปริพาชก : คำเรียกพระสารีบุตรเมื่อบวชเป็นปริพาชกอยู่ในสำนักของสญชัย

จีวรภาชก : ผู้แจกจีวร คือ ภิกษุที่สงฆ์สมมติให้เป็นเจ้าหน้าที่แจกจีวร, เป็นตำแหน่งหนึ่งในบรรดาเจ้าอธิการแห่งจีวร

ปริพาชก : นักบวชผู้ชายนอกพระพุทธศาสนาพวกหนึ่งในชมพูทวีปชอบสัญจร ไปในที่ต่างๆ สำแดงทรรศนะทางศาสนาปรัชญาของตน

เตโชกสิณ : (นปุ.) การเพ่งไฟ, เตโชกสิณ.

ปคฺฆรณ : นป. การไหลซึม, การเปียกโชก, การไหลออกมา

โสทก : ค. มีน้ำเปียกโชก

ติณกาช, - ชก : นป. หาบหญ้า

ปุญฺช, - ชก : ป. กอง, ก้อน, หมู่, พวก