cry : (VI) ; ร้องไห้ ; Related:ร่ำไห้

cry : (VT) ; ร้องไห้ ; Related:หลั่งน้ำตา ; Syn:weep

weep : (VI) ; ร้องไห้ ; Related:ร้อง, ร่ำไห้ ; Syn:cry, sob, whimper

weepy : (ADJ) ; ร้องไห้ (คำไม่เป็นทางการ) ; Related:น้ำตาคลอ, ร่ำไห้ ; Syn:crying, tearful, teary

blubber : (VI) ; ร้องไห้ฟูมฟาย ; Syn:sob

cry for : (PHRV) ; ร้องไห้เพื่อต้องการ ; Syn:cry over

cry for : (PHRV) ; ร้องไห้เนื่องจาก

น้ำตาไหล : (V) ; tears flow ; Related:cry ; Syn:ร้องไห้ ; Def:มีน้ำตาออกมาจากตาแสดงว่าร้องไห้ ; Samp:ชายไทยหรือชายอเมริกันมีกฎว่า เวลาเสียใจไม่ควรน้ำตาไหลให้ใครเห็น

กันแสง : (V) ; weep ; Related:shed tears, cry ; Syn:ร้องไห้ ; Ant:ยิ้ม, หัวเราะ ; Samp:พระมเหสีกันแสง

ยม 1 : (V) ; cry ; Related:weep, snivel, blubber, bewail, moan, sob ; Syn:ร้องไห้

โอด : (V) ; cry ; Related:wail, weep ; Syn:ร้องไห้

ขัน 4 : (V) ; laugh ; Syn:ขบขัน, หัวเราะ ; Ant:ร้องไห้ ; Def:เปล่งเสียงแสดงความขบขัน ดีใจ ชอบใจ เป็นต้น ; Samp:เจ้าพ่ออดขันกับตัวเองไม่ได้ที่เผลอทำอะไรเซ่อๆ ลงไป

ร้องห่มร้องไห้ : (V) ; weep ; Related:cry with sorrow ; Syn:ร้องไห้ร้องห่ม, ร้องไห้, ร้องไห้คร่ำครวญ ; Def:ร้องร่ำไรอย่างน้อยอกน้อยใจ ; Samp:บางคนที่ถูกตามใจมากๆ อาจจะแสดงท่าทีกรีดกราด และร้องห่มร้องไห้รำพันต่างๆ เมื่อไม่ได้ดังใจ

การร้องไห้ : (N) ; cry ; Related:weep ; Syn:การร้องไห้ฟูมฟาย, การร่ำไห้ ; Samp:การร้องไห้ไม่ได้ช่วยอะไรดีขึ้นเลย

ร้องไห้ : ก. อาการที่นํ้าตาไหลเพราะประสบอารมณ์อันแรงกล้า เช่น เจ็บปวด เศร้าโศก ดีใจ,บางทีใช้ว่า ร้อง คําเดียว หรือใช้เข้าคู่กับคำ ร้องห่ม เป็น ร้องห่มร้องไห้หรือ ร้องไห้ร้องห่ม ก็ได้.

กำสรวล : [-สวน] (แบบ) ก. โศกเศร้า, คร่าครวญ, ร้องไห้, เช่น ไทกำสรดสงโรธ ท้ยนสงโกจกำสรวลครวญไปพลาง. (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). (โบ กําสรวญ).

พิลาป : ก. รํ่าไรรําพัน, ครํ่าครวญ, ร้องไห้, บ่นเพ้อ. (ป., ส. วิลาป).

ร้องห่มร้องไห้ : ก. ร้องรํ่าไรอย่างน้อยอกน้อยใจ, ร้องไห้ร้องห่ม ก็ว่า.

ธรณีร้องไห้ : น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง, ธรณีกันแสง หรือ พสุธากันแสง ก็ว่า.

กรรแสง : ร้องไห้ บัดนี้เขียน กันแสง

กปิสีสะ : ไม้ที่ทำเป็นรูปหัวลิง ในวันที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน พระอานนทเถระยืนเหนี่ยวไม้นี้ร้องไห้ เสียใจว่าตนยังไม่สำเร็จพระอรหัตพระพุทธเจ้าก็จักปรินิพพานเสียแล้ว

โศกาลัย : ความเศร้าเหี่ยวแห้งใจและความห่วงใย, ทั้งโศกเศร้าทั้งอาลัยหรือโศกเศร้าด้วยอาลัย, ร้องไห้สะอึกสะอื้น (เป็นคำกวีไทยผูกขึ้น)

สุภัททะ วุฒบรรพชิต : “พระสุภัททะผู้บวชเมื่อแก่” ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งการปรารภที่จะทำสังคายนาครั้งที่ ๑ ก่อนบวช เป็นช่างตัดผมในเมืองอาตุมา มีบุตรชาย ๒ คน เมื่อบวชแล้วคราวหนึ่งได้ข่าวว่าพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยสงฆ์หมู่ใหญ่จะเสด็จมายังเมืองอาตุมา จึงให้บุตรทั้ง ๒ เอาเครื่องมือตัดผมออกไปเที่ยวขอตัดผมตามบ้านเรือนทุกแห่ง แลกเอาเครื่องปรุงยาคูมาได้มากมาย แล้วบัญชาการให้ผู้คนจัดเตรียมข้าวยาคูไว้เป็นอันมาก เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาถึง ก็นำเอาข้าวยาคูนั้นเข้าไปถวาย พระพุทธเจ้าตรัสถาม ทรงทราบความว่าพระสุภัททะได้ข้าวนั้นมาอย่างไรแล้ว ไม่ทรงรับและทรงติเตียน แล้วทรงบัญญัติสิกขาบท ๒ ข้อ คือ บรรพชิตไม่พึงชักชวนคนทำในสิ่งที่เป็นอกัปปิยะ และภิกษุผู้เคยเป็นช่างกัลบกไม่พึงเก็บรักษาเครื่องตัดโกนผมไว้ประจำตัว จากการที่ได้ถูกติเตียนและเสียของเสียหน้าเสียใจ ในเหตุการณ์ครั้งนั้น พระสุภัททะก็ได้ผูกอาฆาตไว้ ต่อมา เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วได้ ๗ วัน พระสุภัททะร่วมอยู่ในคณะของพระมหากัสสปเถระ ซึ่งกำลังเดินทางจากเมืองปาวาสู่เมืองกุสินารา ระหว่างทางนั้น คณะได้ทราบข่าวพุทธปรินิพพานจากอาชีวกผู้หนึ่ง ภิกษุทั้งหลายที่ยังไม่สิ้นราคะ (คือพระปุถชน โสดาบัน และสกทาคามี) พากันร้องไห้คร่ำครวญเป็นอันมาก ในขณะนั้นเอง พระสุภัททะวุฒบรรพชิต ก็ร้องห้ามขึ้นว่า “อย่าเลย ท่านผู้มีอายุ พวกท่านอย่าเศร้าโศก อย่าร่ำไห้ไปเลย พวกเราพ้นดีแล้ว พระมหาสมณะนั้นคอยเบียดเบียนพวกเราว่าสิ่งนี้ควรแก่เธอ สิ่งนี้ไม่ควรแก่เธอ บัดนี้พวกเราปรารถนาสิ่งใด ก็จักกระทำสิ่งนั้น” พระมหากัสสปเถระได้ฟังแล้วเกิดธรรมสังเวช ดำริว่า พระพุทธเจ้าปรินิพพานเพียง ๗ วัน ก็ยังเกิดเสี้ยนหนามขึ้นแล้วในพระศาสนา หากต่อไปคนชั่วได้พวกพ้องมีกำลังเติบกล้าขึ้น ก็จะทำพระศาสนาให้เสื่อมถอย ดังนั้น หลังจากเสร็จงานถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแล้ว ท่านจึงได้ยกถ้อยคำของสุภัททะวุฒบรรพชิต นี้ขึ้นเป็นข้อปรารภ ชักชวนพระเถระทั้งหลายร่วมกันทำสังคายนาครั้งแรก

โสกาดูร : เดือดร้อนด้วยความโศก, ร้องไห้สะอึกสะอื้น

วิลปติ : ก. บ่นเพ้อ, ร้องไห้

กนฺทติ : ก. ร้องไห้, คร่ำครวญ

กนฺทน : นป. การร้องไห้, การคร่ำครวญ

กนฺทิต : นป. การร้องไห้, การพิไร

ปฏิโรทติ : ก. ร้องไห้ตาม, ร้องไห้ตอบ

ร้องไห้ : รุทติ, โรทติ, วิรวิ