lie 1 : (VI) ; หลอกหลวง ; Related:หลอก ; Syn:deceive

delude oneself into : (PHRV) ; หลอก (ตัวเอง) ในเรื่อง

delude oneself with : (PHRV) ; หลอก (ตัวเอง) ด้วย ; Syn:deceive with

jive : (VT) ; หลอก (คำไม่เป็นทางการ) ; Syn:kid, tease, fool

jive : (VI) ; หลอก (คำไม่เป็นทางการ) ; Syn:kid, tease

con 1 : (VT) ; หลอกลวง ; Related:หลอก, ตบตา ; Syn:deceive, cheat, swindle

deceive : (VT) ; หลอกลวง ; Related:หลอก, ลวง, ต้ม, โป้ปด, โกหก ; Syn:delude, betray

หลอกหลอน : (V) ; haunt ; Related:frighten, scare ; Syn:หลอก ; Samp:ผู้แพ้ยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ หลอกหลอนผู้ชนะตลอดเวลา

หลอกล่อ : (V) ; deceive ; Related:lure, entice, tempt, seduce, fool ; Syn:หลอก, ล่อลวง, ชักจูง ; Samp:นักกีฬาจะสร้างจินตการว่าเขาจะหลอกล่อคู่แข่งขันอย่างไรก่อนลงแข่งจริง

ล่อหลอก : (V) ; lure ; Related:entice, delude, deceive, hoodwink, tempt, seduce, allure ; Syn:หลอกล่อ, ล่อลวง, ลวง, ตุ๋น, ลวงล่อ, หลอก ; Def:ล่อให้หลง ; Samp:ผู้ร้ายใช้กลลวงทางการบัญชีล่อหลอกเอาเงินจากคนชั้นสูง

หลอกตัวเอง : (V) ; deceive oneself ; Related:fool oneself, delude oneself ; Syn:ไม่ยอมรับความจริง ; Def:ทำตรงข้ามกับความรู้สึกและสถานะของตน จนตัวเองก็พลอยนึกว่าตนเป็นเช่นนั้นจริงๆ, ไม่ยอมรับกับตนเองว่าตนเองเป็นอย่างไร ; Samp:แม้ลูกเต้าเขาร้องไห้กันแล้ว ข้าพเจ้าก็ยังคงหลอกตัวเองต่อไปว่าท่านจะยังไม่ตาย

หลอกตา : (ADJ) ; deceptive ; Related:misleading, delusive ; Syn:ลวงตา ; Def:เห็นผิดไปจากความจริง ; Samp:กระจกในร้านเสื้อผ้าโดยส่วนใหญ่ เมื่อส่องแล้วจะดูหลอกตา เพื่อให้เห็นว่ารูปร่างพอเหมาะกับเสื้อผ้า

การหลอก : (N) ; deception ; Related:deceitfulness, deceit ; Syn:การหลอกลวง, การลวง, การโกหก ; Def:การทำให้เข้าใจผิดสำคัญผิด, การทำให้ตกใจ, การล้อ ; Samp:การหลอกคนอื่นนั้นง่ายแต่การหลอกตนเองนั้นยาก

ตบตา : (V) ; hood wink ; Related:cheat or deceive, trick, mislead ; Syn:หลอก, ลวง, โกง, ต้ม, ฉ้อฉล, หลอกล่อ, ตุ๋น, ต้มตุ๋น ; Def:หลอกหรือลวงให้เข้าใจผิด ; Samp:นักพนันตบตาเจ้ามือ

หลอก ๒, หลอก ๆ : ว. ไม่จริง เช่น เผาหลอก, เล่น ๆ เช่น ทําหลอก ๆ ชกกันหลอก ๆ.

หลอก ๑ : [หฺลอก] ก. ทําให้เข้าใจผิดสําคัญผิด เช่น หลอกขายของปลอม, ทําให้ ตกใจ เช่น ผีหลอก, ล้อ เช่น แลบลิ้นหลอก; ขัดกัน เช่น สีหลอกกัน.

หลอกตา : ก. ทำให้เห็นขนาด ระยะทาง เป็นต้น ผิดไปจากความเป็นจริง เช่น ที่แปลงนี้หลอกตา ดูเล็กนิดเดียวแต่มีเนื้อที่หลายไร่. ว. ที่ทำให้เห็น ขนาดหรือรูปร่างผิดไปจากความเป็นจริง เช่น เสื้อตัวนี้หลอกตา ใส่แล้ว ดูผอม กระจกหลอกตา.

หลอกล่อ : ก. หลอกให้เชื่อโดยมีเครื่องจูงใจ, ล่อหลอก ก็ว่า.

หลอกล้อ : ก. ทำกิริยาอาการเย้าเล่น, ล้อหลอก ก็ว่า.

พาหิย ทารุจีริยะ : พระมหาสาวกองค์หนึ่ง เกิดในครอบครัวคนมีตระกูลในแคว้นพาหิยรัฐ ลงเรือเดินทะเลเพื่อจะไปค้าขาย เรือแตกกลางทะเลรอดชีวิตไปได้ แต่หมดเนื้อหมดตัว ต้องแสดงตนเป็นผู้หมดกิเลสหลอกลวงประชาชนเลี้ยงชีวิต ต่อมาพบพระพุทธเจ้า ทูลขอให้ทรงแสดงธรรม พระองค์ทรงแสดงวิธีปฏิบัติต่ออารมณ์ที่รับรู้ทางอายตนะทั้ง ๖ พอจบพระธรรมเทศนาย่นย่อนั้น พาหิยะก็สำเร็จอรหัต แต่ไม่ทันได้อุปสมบท กำลังเที่ยวหาบาตรจีวร เผอิญถูกโคแม่ลูกอ่อนขวิดเอาสิ้นชีวิตเสียก่อน ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะทางด้านตรัสรู้ฉับพลัน

มละ : มลทิน, เครื่องทำให้มัวหมอง เปรอะเปื้อน, กิเลสดุจสนิมใจ มี ๙ อย่าง คือ ๑.โกธะ ความโกรธ ๒.มักขะ ความลบหลู่คุณท่าน ๓.อิสสา ความริษยา ๔.มัจฉริยะ ความตระหนี่ ๕.มายา มารยา ๖.สาเถยยะ ความโอ้อวดหลอกเขา ๗.มุสาวาท การพูดเท็จ ๘.ปาปิจฉา ความปรารถนาลามก ๙.มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิด

มิจฉาอาชีวะ : เลี้ยงชีพผิด ได้แก่ หาเลี้ยงชีพในทางทุจริตผิดวินัยหรือผิดศีลธรรม เช่น หลอกลวงเขา เป็นต้น

สจิตตกะ : มีเจตนา, เป็นไปโดยตั้งใจ, เป็นชื่อของอาบัติพวกหนึ่งที่เกิดขึ้นโดยสมุฏฐานมีเจตนา คือ ต้องจงใจทำจึงจะต้องอาบัตินั้น เช่น ภิกษุหลอนภิกษุให้กลัวผี ต้องปาจิตตีย์ ข้อนี้เป็นสจิตตกะ คือ ตั้งใจหลอกจึงต้องปาจิตตีย์ แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจจะหลอก ไม่ต้องอาบัติ

สัมมาอาชีวะ : เลี้ยงชีวิตชอบ คือเว้นจากเลี้ยงชีวิตโดยทางที่ผิด เช่น โกงเขาหลอกลวง สอพลอ บีบบังคับขู่เข็ญ ค้าคน ค้ายาเสพติด ค้ายาพิษ เป็นต้น (ข้อ ๕ ในมรรค)

กูฏ : (วิ.) เลว, โกง, ปลอม, เก๊, เท็จ, หลอก ลวง. กูฏ เฉทเน วา, อ. ทีโฆ.

กลายติ : ก. ประพฤติโกง, หลอกลวง

กุหก : (ปุ.) คนผู้ยังคนให้พิศวง, คนที่ทำคนให้ พิศวง, คนผู้ยังโลกให่พิศวง, คนหลอกลวง, คนโกหก. ก สกัด. โกหกไทยใช้เป็นกิริยาว่า พูดปด พูดเท็จ. สฺ. กุหก.

กุห กุหณ กุหน : (วิ.) หลอก, หลอกลวง, โกง. กุหฺ วิมฺหาปเน, อ, ยุ.

กุหณา กุหนา : (อิต.) การหลอก, ฯลฯ, ความหลอก, ฯลฯ. ส.กุหน.