Dictionary : English, Thai, Pali. Link : Lexitron, RoyDict, BudDict, ETipitaka, PpmDict, Longdo.
Search: เบื่อหน่าย, เบื่อ, หน่าย , then บอ, บอหนาย, เบื่อ, เบื่อหน่าย, หนาย, หน่าย .

Eng-Thai Lexitron Dict : เบื่อหน่าย, more than 7 found, display 1-7
  1. heigh-ho : (INT) ; คำอุทานแสดงความเหนื่อยล้า เบื่อหน่าย ผิดหวัง ฯลฯ
  2. tire 2 : (VI) ; เบื่อ ; Related:หมดความสนใจ
  3. cheese off : (PHRV) ; รู้สึกเบื่อหน่าย (มักใช้รูป passive voice) ; Related:เหนื่อยหน่าย, เฉื่อยชา ; Syn:brown off, feed up, tire of
  4. satiate : (VT) ; ทำให้เบื่อหน่าย ; Related:ทำให้เบื่อ, ทำให้เอียน ; Syn:sate, fully satisfy, overfill
  5. tediousness : (N) ; ความน่าเบื่อหน่าย ; Related:ความน่าเหนื่อยหน่าย, ความจืดชืด ; Syn:tedium, dearth, dullness
  6. Eng-Thai Lexitron Dict : เบื่อหน่าย, more results...

Thai-Eng Lexitron Dict : เบื่อหน่าย, more than 7 found, display 1-7
  1. เบื่อหน่าย : (V) ; be bored with ; Related:be tired of, be fed up with, be weary of, be sick of, irk ; Syn:ระอา, เบื่อ, ระอิดระอา, อิดหนาระอาใจ, เหนื่อยหน่าย ; Def:เบื่อหน่ายหรือหมดกำลังใจ เพราะถูกรบกวนทำให้เกิดรำคาญหรือมีเหตุติดขัดบ่อยๆ ; Samp:ประชาชนเบื่อหน่ายเต็มทนกับระบบนี้ ไม่ต้องการจะยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งสิ้น
  2. เบื่อหน่าย : (ADV) ; tediously ; Related:monotonously, wearily, tiresomely ; Syn:ระอา, เบื่อ, ระอิดระอา, อิดหนาระอาใจ, เหนื่อยหน่าย ; Def:เบื่อหน่ายหรือหมดกำลังใจ เพราะถูกรบกวนทำให้เกิดรำคาญหรือมีเหตุติดขัดบ่อยๆ ; Samp:นางได้แต่มองการกระทำของลูกชายอย่างเบื่อหน่าย
  3. รำคาญ : (V) ; feel annoyed ; Related:feel bored ; Syn:เบื่อหน่าย ; Samp:เมื่อก่อนเขารำคาญ และดูถูกความงมงายของชาวบ้าน แต่ตอนนี้เขาเฉลียวตัวว่า ชาวบ้านมักรู้อะไรดีกว่าปัญญาชน
  4. เหม็นเบื่อ : (V) ; be bored ; Related:be tired of, be sick of, be fed up with ; Syn:เบื่อ, รำคาญ, เบื่อหน่าย ; Def:เบื่อหน่ายเพราะจำเจ ; Samp:บอกตรงๆ ว่าผมเหม็นเบื่อคนสวยแล้ว
  5. เหนื่อยหน่าย : (V) ; be bored ; Related:be tired of, be uninterested, be fed up with, be sick of, be weary of ; Syn:เบื่อหน่าย, เอือมระอา, เบื่อ, เซ็ง ; Def:หมดความพอใจ ; Samp:ผมเริ่มรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับสภาพแวดล้อมที่เผชิญอยู่
  6. ระอา : (V) ; be bored with ; Related:be tired of, be fed up with ; Syn:เบื่อ, เบื่อหน่าย, ระอิดระอา, เอือมระอา ; Def:เบื่อหน่ายหรือหมดกำลังใจ เพราะถูกรบกวนทำให้เกิดรำคาญหรือมีเหตุติดขัดบ่อยๆ ; Samp:ทุกคนต่างระอากับการทะเลาะวิวาทของครอบครัวเขา เพราะนอกจากเสียงดังน่ารำคาญแล้ว ยังถูกดึงเข้าไปห้ามทัพอีกด้วย
  7. เบื่อ 1 : (V) ; be bored with ; Related:be tired of, be fed up with, be sick of, be weary of ; Syn:ระอา, เบื่อหน่าย, ระอิดระอา, อิดหนาระอาใจ, เหนื่อยหน่าย ; Def:เบื่อหน่ายหรือหมดกำลังใจ เพราะถูกรบกวนทำให้เกิดรำคาญหรือมีเหตุติดขัดบ่อยๆ ; Samp:ผมไปเห็นเพียงครั้งเดียวแล้วไม่อยากย้อนกลับไปดูอีกเพราะเบื่อ
  8. Thai-Eng Lexitron Dict : เบื่อหน่าย, more results...

Royal Institute Thai-Thai Dict : เบื่อหน่าย, more than 5 found, display 1-5
  1. หน่าย : ก. เบื่อ, จืดจาง, คลายจากความพัวพัน, คลายจากความรัก, มักใช้เข้าคู่กับคำ เบื่อ เป็น เบื่อหน่าย.
  2. รำคาญ : ก. ระคายเคือง เช่น รำคาญหู รำคาญตา รำคาญเนื้อ รำคาญตัว; เบื่อ เช่น ทำสวนครัวแก้รำคาญ; ทำให้เดือดร้อน, เบื่อหน่าย, เช่น เสียงทะเลาะกัน ทำให้รำคาญ.
  3. เบื่อ : ก. รู้สึกอิดหนาระอาใจ เหนื่อยหน่าย หรือไม่อยาก เช่น เบื่องาน เบื่อโลก เบื่ออาหาร.
  4. อิดหนาระอาใจ : ก. เบื่อหน่าย, เอือมระอา.
  5. เบื่อ : ก. วางยาพิษเป็นต้นให้เมาหรือให้ตาย เช่น เบื่อหนู เบื่อปลา. ว. เมา. น. เรียกสารที่ทําให้เมาหรือให้ตายว่า ยาเบื่อ.
  6. Royal Institute Thai-Thai Dict : เบื่อหน่าย, more results...

Budhism Thai-Thai Dict : เบื่อหน่าย, 10 found, display 1-10
  1. นิพพิทา : ความหน่าย หมายถึงความหน่ายที่เกิดขึ้นจากปัญญาพิจารณาเห็นความจริง ถ้าหญิงชายอยู่กินกันเกิดหน่ายกัน เพราะความประพฤติไม่ดีต่อกัน หรือหน่ายในมรรยาทของกันและกัน อย่างนี้ไม่จัดเป็นนิพพิทา; ความเบื่อหน่ายในกองทุกข์
  2. นิพพิทาญาณ : ความรู้ที่ทำให้เบื่อหน่ายในกองทุกข์, ปรีชาหยั่งเห็นสังขาร ด้วยความหน่าย ดู วิปัสสนาญาณ
  3. นิพพิทานุปัสสนาญาณ : ปรีชาคำนึงถึงสังขารด้วยความหน่าย เพราะมีแต่โทษมากมาย แต่ไม่ใช่ทำลายตนเองเพราะเบื่อสังขาร เรียกสั้นว่า นิพพิทาญาณ
  4. ภัททกาปิลานี : พระมหาสาวิกาองค์หนึ่ง เป็นธิดาพราหมณ์โกสิยโคตรในสาคลนครแห่งมัททรัฐ (คัมภีร์อปทานว่าไว้ชัดดังนี้ แต่อรรถกถาอังคุตตรนิกายคลาดเคลื่อนเป็นแคว้นมคธ) พออายุ ๑๖ ปี ได้สมรสกับปิปผลิมาณพ (พระมหากัสสปะ) ต่อมามีความเบื่อหน่ายในฆราวาส จึงออกบวชเป็นปริพาชิกา เมื่อพระมหาปชาบดีผนวชเป็นภิกษุณีแล้ว นางได้มาบวชอยู่ในสำนักของพระมหาปชาบดี เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานด้วยความไม่ประมาท ได้บรรลุพระอรหัต ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางปุพเพนิวาสานุสสติ เรียกภัททากาปิลานี บ้าง ภัททากปิลานีบ้าง
  5. มุญจิตุกัมยตาญาณ : ญาณอันคำนึงด้วยใคร่จะพ้นไปเสีย, ความหยั่งรู้ที่ทำให้ต้องการจะพ้นไปเสีย คือ ต้องการจะพ้นไปเสียจากสังขารที่เบื่อหน่ายแล้ว ด้วยนิพพิทานุปัสสนาญาณ (ข้อ ๖ ในวิปัสสนาญาณ ๙)
  6. ยส : พระมหาสาวกองค์หนึ่ง เป็นบุตรเศรษฐีเมืองพาราณสีมีความเป็นอยู่อย่างสุขสมบูรณ์ วันหนึ่งเห็นสภาพในห้องนอนของตน เป็นเหมือนป่าช้า เกิดความสลดใจคิดเบื่อหน่าย จึงออกจากบ้านไปพบพระพุทธเจ้าที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ในเวลาใกล้รุ่ง พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาอนุปุพพีกถา และอริยสัจโปรด ยสกุลบุตรได้ดวงตาเห็นธรรม ต่อมาได้ฟังธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงแก่เศรษฐีบิดาของตน ก็ได้บรรลุอรหัตตผลแล้วขออุปสมบท เป็นภิกษุสาวกองค์ที่ ๖ ของพระพุทธเจ้า
  7. ยสะ : พระมหาสาวกองค์หนึ่ง เป็นบุตรเศรษฐีเมืองพาราณสีมีความเป็นอยู่อย่างสุขสมบูรณ์ วันหนึ่งเห็นสภาพในห้องนอนของตน เป็นเหมือนป่าช้า เกิดความสลดใจคิดเบื่อหน่าย จึงออกจากบ้านไปพบพระพุทธเจ้าที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ในเวลาใกล้รุ่ง พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาอนุปุพพีกถา และอริยสัจโปรด ยสกุลบุตรได้ดวงตาเห็นธรรม ต่อมาได้ฟังธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงแก่เศรษฐีบิดาของตน ก็ได้บรรลุอรหัตตผลแล้วขออุปสมบท เป็นภิกษุสาวกองค์ที่ ๖ ของพระพุทธเจ้า
  8. สังขารุเปกขาญาณ : ปรีชาหยั่งรู้ถึงขั้นเกิดความวางเฉยในสังขาร, ญาณอันเป็นไปโดยความเป็นกลางต่อสังขาร, ญาณอันเป็นไปโดยความเป็นกลางต่อสังขาร คือรู้เท่าทันสภาวะของสังขารว่าที่ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นต้นนั้น มันเป็นไปของมันอย่างนั้นเป็นธรรมดา จึงเลิกเบื่อหน่าย เลิกคิดหาทางแต่จะหนี วางใจเป็นกลางต่อมันได้เลิกเกี่ยวเกาะและให้ญาณแล่นมุ่งสนิพพานอย่างเดียว (ข้อ ๘ ในวิปัสสนาญาณ ๙)
  9. วิปัสสนาญาณ : ญาณที่นับเข้าในวิปัสสนาหรือญาณที่จัดเป็นวิปัสสนามี ๙ อย่าง คือ ๑.อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ ญาณตามเห็นความเกิดและความดับแห่งนามรูป ๒.ภังคานุปัสสนาญาณ ญาณตามเห็นจำเพาะความดับเด่นขึ้นมา ๓.ภยตูปัฏฐานญาณ ญาณอันมองเห็นสังขารปรากฏเป็นของน่ากลัว ๔.อาทีนวานุปัสสนาญาณ ญาณคำนึงเห็นโทษ ๕.นิพพิทานุปัสสนาญาณ ญาณคำนึงเห็นด้วยความหน่าย ๖.มุจจิตุกัมยตาญาณ ญาณหยั่งรู้อันให้ใคร่จะพ้นไปเสีย ๗.ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ ญาณอันพิจารณาทบทวนเพื่อจะหาทาง ๘.สังขารุเปกขาญาณ ญาณอันเป็นไปโดยความเป็นกลางต่อสังขาร ๙.สัจจานุโลมิกญาณ ญาณเป็นไปโดยควรแก่การหยั่งรู้อริยสัจ
  10. อาชีวปาริสุทธิ : ความบริสุทธิ์แห่งอาชีวะ คือ เลี้ยงชีวิตโดยทางที่ชอบไม่ประกอบอเนสนา เช่น ไม่หลอกลวงเขาเลี้ยงชีวิต เป็นต้น (ข้อ ๓ ในปาริสุทธิศีล ๔)

ETipitaka Pali-Thai Dict : เบื่อหน่าย, more than 5 found, display 1-5
  1. นิพฺพินฺท : (วิ.) เบื่อ, หน่าย, เบื่อหน่าย, จืด จาง. นิปุพฺโพ, วิทฺ ตุฏฐยํ, อ. นิคฺคหิตาคโม.
  2. กิสฺสติ : ก. ผอม, อ่อนเพลีย, ล้า, เบื่อหน่าย
  3. นิพฺพิชฺชติ : ก. เบื่อหน่าย, เหนื่อยหน่าย, ท้อใจ
  4. นิพฺพินฺทติ : ก. เบื่อหน่าย, เหนื่อยหน่าย, ท้อใจ
  5. นิพฺพิทาญาณ : (นปุ.) ความรู้ในความเบื่อ หน่าย, นิพพิทาญาณ คือความรู้ทำให้ เกิดความเบื่อหน่ายในกองทุกข์.
  6. ETipitaka Pali-Thai Dict : เบื่อหน่าย, more results...

Pramaha Prasert Mantasevi's Thai-Pali Dict : เบื่อหน่าย, 3 found, display 1-3
  1. บ่อ : กูโป
  2. หลุม, บ่อ : อาวาโฏ, กาสุอิ.
  3. สึก, ลาสิกขา : อุปพฺพชติ, วิพฺภมติ, หีนาย อาวตฺตติ, อุปฺปพฺพชิตฺวา, วิพฺภมิตฺวา

(0.2307 sec)