Dictionary
: English, Thai, Pali.
Link :
Lexitron
,
RoyDict
,
BudDict
,
ETipitaka
,
PpmDict
,
Longdo
.
Enter word :
(use % for wildcard)
Search:
คะยั้นคะยอ
.
Eng-Thai Lexitron Dict
:
คะยั้นคะยอ
, 3 found, display 1-3
coax
:
(VI)
;
เกลี้ยกล่อม
;
Related:
คะยั้นคะยอ
,
ชักชวน
,
โน้มน้าว
;
Syn:
blandish
,
urge
coax
:
(VT)
;
เกลี้ยกล่อม
;
Related:
คะยั้นคะยอ
,
ชักชวน
,
โน้มน้าว
;
Syn:
wheedle
,
persuade
,
cajole
,
blandish
,
urge
,
induce
cough out
:
(PHRV)
;
เล่าอย่างไม่เต็มใจ (หลังจากถูกชักชวนหรือ
คะยั้นคะยอ
) (คำไม่เป็นทางการ)
;
Syn:
cough up
,
spit up
Thai-Eng Lexitron Dict
:
คะยั้นคะยอ
, 2 found, display 1-2
คะยั้นคะยอ
:
(V)
;
urge
;
Related:
exhort
,
coax
,
cajole
,
wheedle
;
Syn:
รบเร้า
,
เซ้าซี้
;
Def:
หนุนให้ทำ, ชักชวนให้ตกลงใจทำด้วยการรบเร้า
;
Samp:
แม่เฒ่า
คะยั้นคะยอ
ให้ลูกชายกินข้าวให้มากๆ โดยเฉพาะไก่ต้มใส่ใบยา
ชนแก้ว
:
(V)
;
give a toast
;
Related:
clink glasses
;
Syn:
ยกแก้ว
;
Samp:
เขาเมาหนักเพราะถูกเพื่อน
คะยั้นคะยอ
ให้ชนแก้วไปหลายแก้ว
Royal Institute Thai-Thai Dict
:
คะยั้นคะยอ
, 3 found, display 1-3
คะยั้นคะยอ
:
ก. ชักชวนให้ตกลงใจด้วยการรบเร้า.
แค่น
:
ก. ฝืน เช่น แค่นกิน,
คะยั้นคะยอ
เช่น แค่นให้กิน, ทําไม่เป็นหรือ ไม่สันทัดแล้วยังอวดดีขืนทํา เช่น แค่นทำ, สะเออะ เช่น ไม่มีเงิน ยังแค่นแต่งตัวโก้.
กระแหย่ง
:
[-แหฺย่ง] ว. อาการปีนขึ้นอย่างพลั้ง ๆ พลาด ๆ. ก.
คะยั้นคะยอ
เช่น มาหยักเหยาเซ้าซี้กระแหย่งชาย. (รามเกียรติ์ ร. ๑).
Budhism Thai-Thai Dict
:
คะยั้นคะยอ
, 1 found, display 1-1
สุภัททะ
:
ปัจฉิมสิกขิสาวก (สาวกผู้ทันเห็นองค์สุดท้าย) ของพระพุทธเจ้า เรียกสั้นๆ ว่า ปัจฉิมสาวก เดิมเป็นพราหมณ์ตระกูลใหญ่ ต่อมาออกบวชเป็นปริพาชก อยู่ในเมืองกุสินารา ในวันที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน สุภัททปริพาชกได้ยินข่าวแล้วคิดว่าตนมีข้อสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง อยากจะขอให้พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเพื่อแก้ข้อสงสัยนั้นเสียก่อนที่จะปรินิพพาน จึงเดินทางไปยังสาลวัน ตรงไปหาพระอานนท์ แจ้งความประสงค์ขอเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา พระอานนท์ได้ห้ามไว้ เพราะเกรงว่าพระองค์เหน็ดเหนื่อยอยู่แล้ว จะเป็นการรบกวนให้ทรงลำบาก สุภัททปริพาชกก็
คะยั้นคะยอ
จะขอเข้าเฝ้าให้ได้ พระอานนท์ก็ยืนกรานห้ามอยู่ถึง ๓ วาระ จนพระผู้มีพระภาคทรงได้ยินเสียงโต้ตอบกันนั้น จึงตรัสสั่งพระอานนท์ว่าสุภัททะมุ่งหาความรู้ มิใช่ประสงค์จะเบียดเบียนพระองค์ ขอให้ปล่อยให้เขาเข้าเฝ้าเถิด สุภัททปริพาชกเข้าเฝ้าแล้ว ทูลถามว่า สมณพราหมณ์เจ้าลัทธิที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย คือ เหล่าครูทั้ง ๖ นั้น ล้วนได้ตรัสรู้จริงทั้งหมดตามที่ตนปฏิญญา หรือได้ตรัสรู้เพียงบางท่านหรือไม่มีใครตรัสรู้จริงเลย พระพุทธเจ้าทรงห้ามเสียและตรัสว่าจะทรงแสดงธรรม คือ หลักการหรือหลักความจริงให้ฟัง แล้วตรัสว่า อริยมรรคมีองค์ ๘ หาไม่ได้ในธรรมวินัยใด สมณะ (คืออริยบุคคลทั้ง ๔) ก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น อริยมรรคมีองค์ ๘ หาได้ในธรรมวินัยใด สมณะก็หาได้ในธรรมวินัยนั้น อริยมรรคมีองค์ ๘ หาได้ในธรรมวินัยนี้ สมณะทั้ง ๔ จึงมีในธรรมวินัยนี้ ลัทธิอื่นๆ ว่างจากสมณะ และตรัสสรุปว่า ถ้าภิกษุทั้งหลายเป็นอยู่โดยชอบ โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อจบพระธรรมเทศนา สุภัททปริพาชกเลื่อมใสทูลขอบรรพชาอุปสมบท พระพุทธเจ้าตรัสสั่งพระอานนท์ให้บวชสุภัททะในสำนักของพระองค์ โดยประทานพุทธานุญาตพิเศษให้ยกเว้นไม่ต้องอยู่ติตถิยปริวาส ท่านสุภัททะบวชแล้วไม่นาน (อรรถกถาว่าในวันนั้นเอง) ก็ได้บรรลุอรหัตตผล นับเป็นพุทธปัจฉิมสักขิสาวก
ETipitaka Pali-Thai Dict
:
คะยั้นคะยอ
, not found
Pramaha Prasert Mantasevi's Thai-Pali Dict
:
คะยั้นคะยอ
, not found