ฝนลงเม็ด :
(V) ;
rain ;
Related:(rain) fall ;
Syn:ฝนตก ;
Samp:อย่าให้ลูกออกไปเล่นข้างนอกนะ มีฝนลงเม็ดแล้ว ฝน 1 :
(N) ;
rain ;
Syn:พรรษา, วสันต์, วรุณ, พิรุณ, วรรษ, พรรษ ;
Def:น้ำที่ตกลงมาจากเมฆเป็นเม็ดๆ ;
Samp:คนโบราณมีความเชื่อว่าหากทำอะไรวิตถารหรือสัปดนแล้วฝนจะตก เช่น แห่นางแมว ;
Unit:เม็ด, ห่า ฝนตก :
(N) ;
rain ;
Def:ฝนที่โปรยเม็ดลงมา ;
Samp:ถ้าเรานั่งอยู่ในห้องแล้วสงสัยว่าข้างนอกมีฝนตกหรือไม่ เราจะต้องยื่นมือออกไปรองน้ำฝนดู ฝนฟ้า :
(N) ;
rain ;
Syn:ฝน ;
Samp:พิธีไสยศาสตร์เพื่อบังคับธรรมชาติซึ่งสมมติให้มีตัวตนเป็นผีสางเทวดาต้องอำนวยฝนฟ้าให้แก่ตนจะได้ไม่ต้องอดตาย พิรุณ :
(N) ;
rain ;
Syn:ฝน, พระพิรุณ น้ำฝน :
(N) ;
rain water ;
Related:rain ;
Def:น้ำจากเมฆที่ตกลงมาแล้วรองไว้ใช้ดื่มกิน ;
Samp:ชาวบ้านในชนบทที่ขาดแคลนน้ำมักจะรองน้ำฝนไว้ใช้ดื่มกิน ฝนชะลาน :
(N) ;
rain washing away the mango inflorescence ;
Related:January rain ;
Syn:ฝนชะช่อมะม่วง ;
Def:ฝนที่ตกชะช่อมะม่วง, ฝนที่ตกในระยะเวลาที่ยังนวดข้าวไม่เสร็จ ก้ามปู :
(N) ;
rain tree ;
Syn:ฉำฉา, สำสา ;
Def:ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ ในวงศ์ Leguminosae เรือนยอดทึบแบน แผ่สาขากว้างใหญ่จึงให้ร่มเงาได้ดี ดอกสีชมพูแก่ ฝักแก่สีน้ำตาลไหม้ ยาวประมาณ 12 เซนติเมตร รสหวาน ;
Samp:ต้นก้ามปูเป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุยืนมาก ;
Unit:ต้น ฉำฉา 1 : (N) ; rain tree ; Related:genus Pitaecolobium ; Def:ชื่อเรียกไม้เนื้ออ่อน โดยมากเป็นพวกไม้สน (conifers) ที่ใช้ทำหีบบรรจุของมาจากต่างประเทศ ; Unit:ต้น
ฝนชะช่อมะม่วง :
(N) ;
rain of January-March period when mango trees produce clusters of inflorescence ;
Syn:ฝนชะลาน ;
Def:ฝนที่ตกเล็กน้อยประปรายในเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมซึ่งเป็นระยะที่มะม่วงออกช่อพอดี ;
Samp:ฝนชะช่อมะม่วงจะตกในฤดูที่มะม่วงกำลังออกช่อ ป่าดงดิบ : (N) ; tropical rain forest ; Related:tropical evergreen forest, rain forest ; Def:ป่าไม้ที่มีอยู่ทั่วไปในเขตร้อน ฝนชุก เป็นป่าไม้สีเขียวไม่ผลัดใบ ; Samp:ทางตอนเหนือของประเทศไทยเต็มไปด้วยป่าดงดิบ ; Unit:แห่ง, ที่, ป่า
ห่า 2 : (N) ; shower of rain ; Related:amount of rain ; Def:จำนวนน้ำฝนที่ตกลงมากๆ คราวหนึ่งๆ เรียกว่า ห่าหนึ่งๆ ; Samp:ฝนเริ่มโปรยเม็ดแล้วเทลงมาห่าใหญ่
ขาดเม็ด :
(V) ;
stop (for rain) ;
Syn:หยุดตก, หายสนิท ;
Def:อาการที่หยุดหรือหายสนิท ;
Samp:พอฝนขาดเม็ดเขาก็รีบออกไปทันที เชย 3 :
(V) ;
drizzle (rain) ;
Related:shower ;
Syn:โปรยปราย ;
Def:โปรยปรายลงมา ในคำว่า ฝนเชย ;
Samp:ฝนเชยลงมาสองสามคราวพืชพันธุ์ต่างๆ เหล่านั้นก็กลับงอกงามขึ้นใหม่ ซู่ๆ : (ADV) ; sound of dashing rain ; Def:เสียงดังอย่างเสียงฝนตกมากๆ แต่ตกไม่นาน ; Samp:เสียงฝนตกซู่ๆ สร้างบรรยากาศหนาวเหน็บและวังเวงยิ่งขึ้นอีก
ตากฝน : (V) ; be exposed to the rain
ติดเก้ง : (V) ; (fucking dogs) get stuck ; Related:still mate (/pair) with each other, get stuck during mating, get stuck during pairing, get stuck during coupling, (of animals) to produce young ; Syn:ติดเต้ง, ติดเป้ง ; Def:อาการร่วมประเวณี (ใช้แก่สัตว์) ของสุนัขซึ่งกำลังติดกัน ; Samp:หมาสองตัวกำลังติดเก้งอยู่ริมถนน มีหมาตัวผู้อีกหลายตัวเฝ้าอยู่
ติดฝน : (V) ; catch in the rain ; Def:ไม่อาจเคลื่อนย้ายไปที่ไหนได้เพราะฝนตก ; Samp:เธอกลับบ้านสายเพราะติดฝนอยู่ที่ทำงาน
ฝนกรด : (N) ; acid rain ; Def:น้ำในอากาศที่กลั่นตัวลงสู่พื้นดิน ปนเปื้อนสารเคมีซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกรดที่มีความเข้มข้นสูงที่กระจายอยู่ในบรรยากาศ ทำให้น้ำมีคุณสมบัติเป็นกรด ไม่สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้ ; Samp:สาธารณสุขต้องให้ความรู้แก่ชาวบ้านถึงพิษภัยของการบริโภคฝนกรด
ฝนเทียม :
(N) ;
artificial rain ;
Syn:ฝนหลวง ;
Def:ฝนที่เกิดจากกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ ;
Samp:การโปรยสารเคมีทำฝนเทียมทำให้อากาศสกปรก ฝนหลวง :
(N) ;
artificial rain ;
Syn:ฝนเทียม ;
Def:ฝนเทียมพระราชทาน ;
Samp:ปีนี้คงต้องมีฝนหลวงให้ชาวนา เพราะปีนี้แล้งเหลือเกิน รอง :
(V) ;
receive the water from the rain ;
Related:contain ;
Def:รับรวมของเหลวหรือสิ่งอื่นที่ไหลตกลงมา ;
Samp:เมื่อถึงหน้าฝน บ้านเราจะรองน้ำใส่โอ่งใบใหญ่เก็บไว้กิน ไล่ช้าง : (N) ; heavy brief and abrupt rain ; Syn:ฝนไล่ช้าง, ฝนซู่ ; Def:ฝนที่ตกลงมาซู่ใหญ่เพียงครู่เดียวแล้วหยุด ; Samp:เด็กๆ วิ่งหนีฝนไล่ช้างเข้าร่มกันหมด
สายฝน : (N) ; falling rain ; Def:ฝนที่ตกลงมา ; Samp:เขามองจากจุดที่ยืนไปยังถนนใหญ่ที่พร่าเลือนด้วยสายฝน
ฝนแล้ง :
(N) ;
drought ;
Related:rain-shortage, dry spell ;
Def:ภาวะไร้ฝน ;
Samp:ถ้าปีใดฝนขาดช่วงหรือฝนแล้ง พืชผลเสียหาย รายได้ของเกษตรกรก็น้อยลงไปด้วย เมฆฝน :
(N) ;
nimbus ;
Related:rain cloud ;
Def:เมฆลอยต่ำที่จะละลายตัวลงมาเป็นน้ำ ;
Samp:เมฆฝนตั้งเค้าครึ้มทึม และสายลมก็กรรโชกเข้ามาในห้องเป็นครั้งคราว กระหน่ำ :
(V) ;
pound (repeatedly) ;
Related:hammer, thump, (rain) batter, bang, beat ;
Syn:ซ้ำๆ, รัว ;
Def:ซ้ำๆ ลงอย่างหนัก ;
Samp:เมื่อถึงเวลาเพล ลูกศิษย์วัดจะกระหน่ำกลองเพื่อบอกเวลา ครึ้ม :
(V) ;
be cloudy ;
Related:be grey, be overcast, be overclouded, look like it's going to rain ;
Syn:ครื้มฝน, มืดครึ้ม, อึมครึม ;
Ant:สดใส, ปลอดโปร่ง, แจ่มใส ;
Samp:ท้องฟ้าครึ้มเช่นนี้ อีกไม่นานฝนก็คงจะตก ซ่า 3 : (ADV) ; sound loudly of the waterfall ; Related:sound of patter of rain ; Def:เสียงดังอย่างเสียงน้ำแตกกระจาย ; Samp:เราได้ยินเสียงน้ำตกกระทบพื้นซีเมนต์รอบบ่อดังซ่า
ทันน้ำทันฝน : (ADV) ; in time for the flood season and rainy season ; Related:in time for tide or rain ; Syn:ทันฤดูกาล ; Def:ให้ทันหน้าน้ำหน้าฝน, ให้ทันฤดูกาล ; Samp:ชาวนาเร่งปลูกข้าวให้ทันน้ำทันฝน
พลอมแพลม :
(ADV) ;
(be visible) intermittently ;
Related:unevenly, sparsely, scantily, lightly, in a drizzle (of rain) ;
Syn:วาบแวบ ;
Def:ไม่สม่ำเสมอ ;
Samp:ในบ้านมืดสนิท มีเพียงตะเกียงส่องแสงพลอมแพลมพอให้เห็นทางเท่านั้น พลอมแพลม :
(ADV) ;
(be visible) intermittently ;
Related:unevenly, sparsely, scantily, lightly, in a drizzle (of rain) ;
Syn:วาบแวบ ;
Def:ไม่สม่ำเสมอ ;
Samp:ในบ้านมืดสนิท มีเพียงตะเกียงส่องแสงพลอมแพลมพอให้เห็นทางเท่านั้น ละอองฝน :
(N) ;
drizzle ;
Related:droplets of rain, mist of rain ;
Def:ฝนที่ตกลงมาเป็นฝอย ;
Samp:วันนี้โดนละอองฝนตอนวิ่งไปขึ้นรถ เลยมีอาการจาม และน้ำมูกไหล วอดวาย :
(V) ;
be razed to the ground ;
Related:be burnt down, be ruined, be destroyed, go to the dogs ;
Def:ถูกทำลายจนเสียหายร้ายแรง ;
Samp:หมู่บ้านแถวนั้นวอดวายหมดหลังจากถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ วินาศ :
(V) ;
be destroyed ;
Related:go to the dogs, go to ruin, be ruined, be annihilated ;
Syn:พินาศ, หายนะ ;
Def:ที่เสียหายร้ายแรง ;
Samp:ถ้าเงินบาทลงไปถึง 60 บาทต่อดอลลาร์เมื่อไร บ้านเมืองวินาศแน่