Dictionary : English, Thai, Pali. Link : Lexitron, RoyDict, BudDict, ETipitaka, PpmDict, Longdo.
Search: แยก , then ยก, แยก .

Eng-Thai Lexitron Dict : แยก, more than 7 found, display 1-7
  1. part : (VT) ; แยก ; Related:แบ่งแยก, แยกออก, แยกกัน, แยกทาง ; Syn:divide, split ; Ant:unite, join
  2. separate : (VT) ; แยก ; Related:จับแยก, แบ่งแยก ; Syn:divide, part ; Ant:combine, unite
  3. break : (VT) ; แยก ; Related:แหก, แหวก
  4. disassociate : (VT) ; แยก ; Related:ไม่เกี่ยวข้อง
  5. reduce to : (PHRV) ; แยก ; Related:เปลี่ยนเป็น
  6. isolate : (VT) ; แยก (ความคิด, ปัญหา, สถานการณ์) ; Syn:separate
  7. chap 1 : (VI) ; แตก ; Related:แยก
  8. Eng-Thai Lexitron Dict : แยก, more results...

Thai-Eng Lexitron Dict : แยก, more than 7 found, display 1-7
  1. แยก : (V) ; divide ; Related:separate, part, split, bisect ; Syn:แบ่ง ; Ant:รวม ; Def:ทำให้สิ่งที่รวมกันอยู่หรือประกอบกันอยู่ออกจากกัน ; Samp:เขาได้แยกมนุษย์ออกเป็น 2 ส่วน คือ กาย (body) และจิต (mind)
  2. สกัด : (V) ; distill ; Syn:แยก ; Def:เค้นแยกเอาออกมา ; Samp:มอร์ฟีนสกัดมาจากฝิ่น
  3. กัน : (V) ; separate ; Related:isolate ; Syn:แยก ; Samp:ตำรวจกันผู้ต้องหาจากฝูงชนที่เข้ารุมดูแผนฆาตกรรม
  4. แหวก : (V) ; part ; Related:break into ; Syn:แยก
  5. แยกส่วน : (V) ; separate ; Related:divide into, put apart ; Syn:แยก, แบ่งแยก, แบ่งย่อย, แยกย่อย
  6. แยกเรือน : (V) ; have one's own family ; Related:be in a separate house ; Syn:แยกบ้าน, แยกครัว ; Def:แยกไปมีครอบครัวของตน ; Samp:ลูกฝรั่งจะจัดให้พ่อแม่อยู่ต่างหาก หรือแยกเรือนไป
  7. แยกย้าย : (V) ; move to different places ; Related:go their several ways ; Ant:รวมกัน, รวมตัว ; Def:แยกและย้ายไปคนละทาง ; Samp:เมื่อเสร็จงาน ทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้านของตน
  8. Thai-Eng Lexitron Dict : แยก, more results...

Royal Institute Thai-Thai Dict : แยก, more than 5 found, display 1-5
  1. แยก : ก. ทําให้สิ่งที่รวมกันอยู่หรือประกอบกันอยู่ออกจากกัน เช่น แยกกลุ่ม ประชุม แยกกล้วยไม้, กิริยาของสิ่งที่รวมกันอยู่หรือประกอบกันอยู่แตก ออกจากกัน เช่น แผ่นดินแยก, แตกหรือทําให้แตกออกเป็นทาง เช่น แม่นํ้าแยก ทางแยก, ไม่รวมกัน เช่น แยกกันอยู่.
  2. แยกเขี้ยว : ก. เผยอริมฝีปากให้เห็นเขี้ยวด้วยอาการโกรธหรือขู่ เช่น เสือ แยกเขี้ยว, (ปาก) โดยปริยายหมายถึงพูดด้วยความโกรธหรือขู่.
  3. แยกตัว : ก. ผละออก เช่น เขาแยกตัวออกจากพรรคพวก; ไม่ผสมกลมกลืน กัน เช่น น้ำกับน้ำมันแยกตัวกัน; แบ่งตัวเพื่อขยายจำนวน เช่น เซลล์แยกตัว ออกจากกันเป็นทวีคูณ.
  4. แยกธาตุ : ก. ทำให้ธาตุที่รวมกันอยู่หรือประกอบกันอยู่แยกออกจากกัน.
  5. แยกย้าย : ก. แยกกันไปคนละทาง เช่น พองานเลิกต่างก็แยกย้ายกัน กลับบ้าน, แยกและย้ายไปอยู่คนละแห่ง เช่น เมื่อพ่อแม่ตายลูก ๆ ก็ แยกย้ายไปหาที่อยู่ใหม่.
  6. Royal Institute Thai-Thai Dict : แยก, more results...

Budhism Thai-Thai Dict : แยก, more than 5 found, display 1-5
  1. ศิลปศาสตร์ : ตำราว่าด้วยวิชาความรู้ต่างๆ มี ๑๘ ประการ เช่นตำราว่าด้วยการคำนวณ ตำรายิงธนู เป็นต้น อันได้มีการเรียนการสอนกันมาตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาล; ๑๘ ประการนั้น มีหลายแบบ ยกมาดูแบบหนึ่งจากคัมภีร์โลกนิติ และธรรมนิติ ได้แก่ ๑.สูติ ความรู้ทั่วไป ๒.สัมมติ ความรู้กฎธรรมเนียม ๓.สังขยา คำนวณ ๔.โยคยันตร์ การช่างการยนตร์ ๕.นีติ นิติศาสตร์ ๖.วิเสสิกา ความรู้การอันให้เกิดมงคล ๗.คันธัพพา วิชาร้องรำ ๘.คณิกา วิชาบริหารร่างกาย ๙.ธนุพเพธา วิชายิงธนู ๑๐.ปุราณา โบราณคดี ๑๑.ติกิจฉา วิชาแพทย์ ๑๒.อิติหาสา ตำนานหรือประวัติศาสตร์ ๑๓.โชติ ดาราศาสตร์ ๑๔.มายา ตำราพิชัยสงคราม ๑๕.ฉันทสา การประพันธ์ ๑๖.เกตุ วิชาพูด ๑๗.มันตา วิชามนต์ ๑๘.สัททา วิชาไวยากรณ์, ทั้ง ๑๘ อย่างนี้โบราณเรียกรวมว่า สิปปะ หรือศิลปะ ไทยแปลออกเป็น ศิลปศาสตร์ (ตำราว่าด้วยศิลปะต่างๆ); แต่ในสมัยปัจจุบัน ได้แยกความหมายศิลปะ กับ ศาสตร์ ออกจากกัน คือ ศิลปะ หมายถึง วิทยาการที่มีวัตถุประสงค์ตรง ความงาม เช่น ดุริยางคศิลป์ นาฏศิลป์ และจิตรกรรม เป็นต้น ศาสตร์ หมายถึง วิทยาการที่มีวัตถุประสงค์ตรงความจริง เช่น คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
  2. อุเทศ : การยกขึ้นแสดง, การยกขึ้นชี้แจง, ข้อที่ยกขึ้นแสดง, หัวข้อ, การเรียนการสอน, การสวดปาฏิโมกข์, ปาฏิโมกข์ที่ยกขึ้นสวด, หมวดหนึ่งๆ แห่งปาฏิโมกข์ที่จัดไว้สำหรับสวด, ในคำว่า สงฆ์มีอุเทศเดียวกัน หมายความว่า ร่วมฟังสวดปาฏิโมกข์ด้วยกัน; อุเทศในปาฏิโมกข์จัดโดยย่อมี ๕ คือ ๑) นิทานุทเทส ๒) ปาราชิกุทเทส ๕) วิตถารุทเทส, อุทเทสที่ ๕ นั้น รวมเอา นิสสัคคิยุทเทส ปาจิตติยุทเทส ปาฏิเทสนียุทเทส เสขิยุทเทส และสมถุทเทส เข้าไว้ด้วยกัน ถ้าแยกออกนับโดยพิสดารก็จะเป็น ๙ อุเทส การรู้จักอุเทศหรืออุทเทสเหล่านี้เป็นประโยชน์สำหรับการตัดตอนสวดปาฏิโมกข์ย่อได้ในคราวจำเป็น ดู ปาฏิโมกข์ย่อ
  3. กตัญญูกตเวที : ผู้รู้อุปการะที่ท่านทำแล้วและตอบแทน แยกออกเป็น ๒ คือ กตัญญู รู้คุณท่าน กตเวที ตอบแทนหรือสนองคุณท่าน; ความกตัญญูกตเวทีว่าโดยขอบเขต แยกได้เป็น ๒ ระดับ คือ กตัญญูกตเวทีต่อบุคคลผู้มีคุณความดีหรืออุปการะต่อตนเป็นส่วนตัว อย่างหนึ่ง กตัญญูกตเวทีต่อบุคคลผู้ได้บำเพ็ญคุณประโยชน์หรือมีคุณความดีเกื้อกูลแก่ส่วนรวม เช่นที่พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพระพุทธเจ้าโดยฐานที่ได้ทรงประกาศธรรมยังหมู่ชนให้ตั้งอยู่ในกุศลกัลยาณธรรม เป็นต้น อย่างหนึ่ง (ข้อ ๒ ในบุคคลหาได้ยาก ๒) - one who is thankful for benefits received and reciprocates them.
  4. ของสังฆกรรม : มี ๔ คือ ๑.วัตถุวิบัติ เสียโดยวัตถุ เช่น อุปสมบทคนอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี ๒.สีมาวิบัติ เสียโดยสีมา เช่น สีมาไม่มีนิมิต ๓.ปริสวิบัติ เสียโดยบริษัทคือที่ประชุม เช่น ภิกษุเข้าประชุมไม่ครบองค์สงฆ์ ๔.กรรมวาจาวิบัติ เสียโดยกรรมวาจา เช่น สวดผิดพลาดตกหล่น สวดแต่อนุสาวนาไม่ได้ตั้งญัตติ เป็นต้น (ข้อกรรมวาจาวิบัติบางกรณีแยกเป็นญัตติวิบัติและอนุสาวนาวิบัติ กลายเป็นวิบัติ ๕ ก็มี) เทียบ สมบัติ
  5. จักกวัตติสูตร : ชื่อสูตรที่ ๓ แห่งทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค พระสุตตันตปิฎก พระพุทธเจ้าตรัสสอนภิกษุทั้งหลายให้พึ่งตน คือพึ่งธรรม ด้วยการเจริญสติปัฏฐาน ๔ ซึ่งจะทำให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ดำเนินอยู่ในแดนของตนเองที่สืบมาแต่บิดา จะมีแต่ความดีงามเจริญขึ้นไม่เปิดช่องให้แก่มาร เช่นเดียวกับพระเจ้าจักรพรรดิที่ทรงประพฤติตามหลักจักรวรรดิวัตร อันสืบกันมาแต่บรรพชนของพระองค์ ย่อมทำให้จักรรัตนะบังเกิดขึ้นมาเอง, จักรวรรดิวัตร นั้นมี ๔ ข้อใหญ่ ใจความว่า ๑.พระเจ้าจักรพรรดิเป็นธรรมาธิปไตย และจัดการคุ้มครองป้องกันโดยชอบธรรม แก่ชนทุกหมู่เหล่าในแผ่นดิน ตลอดไปถึงสัตว์ที่ควรสงวนพันธุ์ทั้งหลาย ๒.มิให้มีการอันอธรรมเกิดขึ้นในแผ่นดิน ๓.ปันทรัพย์เฉลี่ยให้แก่ผู้ไร้ทรัพย์ ๔.ปรึกษาสอบถามการดีชั่ว ข้อควรและไม่ควรประพฤติ กะสมณพราหมณ์ ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ อยู่เสมอ; จักรวรรดิวัตร ๔ ข้อนี้ บางทีจัดเป็น ๕ โดยแยกข้อ ๑.เป็น ๒ ข้อ คือ เป็นธรรมาธิปไตย ถือธรรมเป็นใหญ่อย่างหนึ่ง กับจัดการคุ้มครองป้องกันอันชอบธรรม อย่างหนึ่ง, นอกจากนั้น สมัยต่อมา อรรถกถาจัดแบ่งซอยออกไป และเพิ่มเข้ามาอีก รวมเป็น ๑๒ ข้อ เรียกว่า จักรวรรดิวัตร ๑๒ ; พระสูตรนี้ถือว่าเป็นคำสอนแสดงหลักวิวัฒนาการของสังคมตามแนวจริยธรรม กล่าวถึงหลักการปกครอง และหลักความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจกับจริยธรรม; เรื่องพระศรีอารยเมตไตรย ก็มีต้นเค้ามาจากพระสูตรนี้
  6. Budhism Thai-Thai Dict : แยก, more results...

ETipitaka Pali-Thai Dict : แยก, more than 5 found, display 1-5
  1. ทาเรติ : ก. ผ่า, แยก, เซาะ, แตก, พัง, ทำลาย
  2. ทาล ทาฬ : (วิ.) ตัด, ทอน, แตก, แยก, ทำลาย. ทลฺ วิทารเณ, โณ.
  3. เภเทติ : ก. ทำลาย, แบ่ง, แยก, แตก
  4. วฺยปคจฺฉติ : ก. ปราศจาก, แยก
  5. อีหามิค : (ปุ.) หมาป่า. ส. อีหามฤค. อุ (อัพ. อุปสรรค) ขึ้น, แยก, ออก, เว้น, ไม่, กำลัง, กล่าว, ประกาศ, อาจ, เลิศ. ลงใน อรรถแห่ง น บ้าง อุ. อุรพฺภ.
  6. ETipitaka Pali-Thai Dict : แยก, more results...

Pramaha Prasert Mantasevi's Thai-Pali Dict : แยก, 8 found, display 1-8
  1. สี่แยก : จตุกฺกํ, จจฺจรํ
  2. ยกของ, ยกธง : อุสฺสาเปติ
  3. ยกขึ้น : อาโรปติ, อุพฺภต
  4. ยกคน : อาโรเปตฺวา
  5. ยกคน (อุ้ม) : อาโรเปสิ
  6. ยกโทษ ขอโทษ : ขมิ
  7. ยกโทษโพนทนา : อุชฺฌายิ
  8. กวัดแกว่ง, ยกขึ้น : อพฺภุคฺคิรติ [ก.]

(0.1875 sec)