jibe at : (PHRV) ; หัวเราะเยาะ ; Related:เยาะเย้ย ; Syn:gibe at, laugh at

scoff at : (PHRV) ; หัวเราะเยาะ ; Related:เยาะเย้ย ; Syn:laugh at

deride : (VT) ; หัวเราะเยาะ ; Related:ดูถูก, เยาะเย้ย ; Syn:jeer, mock, ridicule

horse laugh : (SL) ; หัวเราะเยาะ

jest at : (PHRV) ; หัวเราะเยาะ ; Syn:laugh at

laugh at : (PHRV) ; หัวเราะเยาะ ; Syn:laugh over

make fun/mock/sport of : (IDM) ; หัวเราะเยาะ ; Related:ล้อเลียน ; Syn:laugh at

หัวเราะเยาะ : (V) ; laugh at ; Related:sneer, mock ; Syn:เยาะเย้ย ; Ant:ชมเชย, ยกย่อง ; Def:หัวเราะเพื่อเยาะเย้ยให้เจ็บใจ ; Samp:เธอแน่ใจว่าเขาหัวเราเยาะเธอ เธอจึงทำท่าปั้นปึ่งใส่

หัวเราะ : (V) ; laugh ; Related:chuckle, chortle, guffaw, giggle, titter, be in stitches, snigger ; Syn:หัวร่อ, ขัน, ขบขัน ; Def:เปล่งเสียงแสดงความขบขัน ดีใจ ชอบใจ ; Samp:พวกเขาหัวเราะที่ได้เจอคนชื่อประหลาด

น่าหัวเราะเยาะ : (V) ; ridicule ; Related:make fun of, deride, taunt ; Syn:น่าชวนหัว, น่าขัน, น่าเยาะเย้ย, น่าตลก, น่าขบขัน ; Ant:น่าชื่นชม, น่ายินดี ; Samp:การแสดงของคู่แข่งน่าหัวเราะเยาะเป็นที่สุด

เยาะเย้ย : (V) ; ridicule ; Related:mock, jeer, sneer, laugh at, make fun of, chaff, deride ; Syn:เย้ยหยัน, เย้ย, หยัน ; Def:เยาะให้ได้อายและเจ็บใจ ; Samp:เขาชอบเยาะเย้ยผู้อื่น ไม่เคยไว้วางใจใครในการทำงานใดๆ เลย

ร้อง : (V) ; cry ; Related:weep, blubber, sob, snivel ; Syn:ร้องไห้, เป่าปี่, ไห้ ; Ant:หัวเราะ ; Def:อาการที่น้ำตาไหลเพราะประสบอารมณ์อันแรงกล้า ; Samp:แม่ปลอบลูกให้หยุดร้อง

เยาะเย้ยถากถาง : (V) ; ridicule ; Related:satirize, mock, jeer at ; Syn:เย้ยหยัน, ค่อนขอด, แดกดัน ; Samp:ปรกติเขาชอบเยาะเย้ยถากถางผู้อื่นเสมอ

หัวเราะต่อกระซิก : (V) ; giggle ; Related:titter ; Syn:หัวร่อต่อกระซิก ; Samp:ผู้หญิงสองคนพากันหัวเราะต่อกระซิกอยู่ข้างหลังอย่างน่ารำคาญ

เยาะ : ก. พูดหรือแสดงกิริยาให้เจ็บใจชํ้าใจ โดยย้ำถึงความเสียเปรียบ ความ ด้อยกว่า หรือความผิดพลาด เช่น เยาะว่า ไหนว่าเก่งนัก ทำไมสอบตก.

หัวเราะ : ก. เปล่งเสียงแสดงความขบขัน ดีใจ ชอบใจ เป็นต้น, ใช้เข้าคู่กับคํา หัวไห้ เป็น หัวเราะหัวไห้ ก็มี, หัวร่อ ก็ว่า, (โบ) เขียนเป็น หวัวเราะ ก็มี.

หัวเราะหัวไห้ : (ปาก) ก. หัวเราะ.

เยาะเย้ย : ก. ค่อนว่าหรือแสดงกิริยาซ้ำเติมให้ได้อาย ให้ช้ำใจเจ็บใจ ให้โกรธ.

บริหาส : [บอริหาด] (แบบ) ก. หัวเราะ, ร่าเริง, เยาะเย้ย. (ป., ส. ปริหาส).

เมถุนสังโยค : อาการพัวพันเมถุน, ความประพฤติที่ยังเกี่ยวเนื่องกับเมถุน มี ๗ ข้อ โดยใจความคือ สมณะบางเหล่าไม่เสพเมถุน แต่ยังยินดีในเมถุนสังโยค คือ ชอบการลูบไล้และการนวดของหญิง, ชอบซิกซี้ เล่นหัวสัพยอกกับหญิง, ชอบจ้องดูตากับหญิง, ชอบฟังเสียงหัวเราะขับร้องของหญิง, ชอบนึกถึงการเก่าที่เคยหัวเราะพูดเล่นกับหญิง, เห็นชาวบ้านเขาบำรุงบำเรอกันด้วยกามคุณแล้วปลื้มใจ, หรือแม้แต่ประพฤติพรหมจรรย์ โดยตั้งความปรารถนาที่จะเป็นเทพเจ้า

ลกุณฏก ภัททิยะ : พระมหาสาวกองค์หนึ่ง เป็นบุตรในตระกูลมั่งคั่ง ชาวพระนครสาวัตถี ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาที่พระเชตวันมีความเลื่อมใสจึงบวชในพระพุทธศาสนา ท่านมีรูปร่างเตี้ยค่อมจนบางคนเห็นท่านแล้วหัวเราะจนเห็นฟัน ท่านกำหนดฟันนั้นเป็นอารมณ์กรรมฐาน ได้สำเร็จอนาคามิผล ต่อมาท่านได้บรรลุพระอรหัตในสำนักพระสารีบุตร แต่เพราะความที่มีรูปร่างเล็กเตี้ยค่อม ท่านมักถูกเข้าใจผิดเป็นสามเณรบ้าง ถูกพระหนุ่มเณรน้อยล้อเลียนบ้าง ถูกเพื่อนพระดูแคลนบ้าง แต่พระพุทธเจ้ากลับตรัสยกย่องว่าถึงท่านจะร่างเล็ก แต่มีคุณธรรมฤทธานุภาพมาก ท่านได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะในทางมีเสียงไพเราะ

ยาคู : ข้าวต้ม, เป็นอาหารเบาสำหรับฉันรองท้องก่อนถึงเวลาฉันอาหารหนักเป็นของเหลว ดื่มได้ ซดได้ ไม่ใช่ของฉันให้อิ่ม เช่น ภิกษุดื่มยาคูก่อนแล้วไปบิณฑบาต ยาคูสามัญอย่างนี้ ที่จริงจะแปลว่าข้าวต้มหาถูกแท้ไม่ แต่แปลกันมาอย่างนั้นพอให้เข้าใจง่ายๆ ข้าวต้มที่ฉันเป็นอาหารมื้อหนึ่งได้อย่างที่ฉันกันอยู่โดยมากมีชื่อเรียกต่างออกไปอีกอย่างหนึ่งว่า ดู โภชชยาคู

ยามะ : สวรรค์ชั้นที่ ๓ มีท้าวสุยามเทพบุตรปกครอง

ยามา : สวรรค์ชั้นที่ ๓ มีท้าวสุยามเทพบุตรปกครอง

ฆฆติ : ก. หัวเราะ, หัวเราะเยาะ

อนุหสติ : ก. หัวเราะ, หัวเราะเยาะ

อวหสติ : ก. หัวเราะเยาะ

อูหสติ : ก. หัวเราะเยาะ, ล้อ

อวหาส : ป. การแย้มหัว, การหัวเราะเยาะ

หัวเราะเยาะ : เกฬึ กุรุมานา วิย, อุปผณฺเฑติ

หัวเราะ : หสิ, หสิตํ อกาสิ

การหัวเราะอย่างครื้นเครง : อฏฺฏหาส [ป.]

ยา : เภสชฺชํ, โอสถํ

ยิ้มเยาะ : ปริหาสํ กาตุ