wd's blog

 
โลภะ
เป็นความพอใจแบบลิงโลด มุ่งพอใจผลลัพธ์ คือพอใจเสวยผลมากกว่าสร้างเหตุ นำไปสู่ตัณหาคือสมุทัย ตามด้วยทุกข์ ตามลำดับ
ฉันทะ
เป็นความพอใจที่กำลังพอดี มุ่งพอใจที่ได้กระทำ คือพอใจในการสร้างเหตุมากกว่าเสวยผล นำไปสู่อิทธิบาท คือการมีฤทธิ์
แต่เนื่องจากกามเป็นของหยาบ ดังนั้น กามฉันทะ (ความพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ) อันเป็นตัวนำไปสู่การไขว่คว้าหากามสุข ซึ่งเป็นของหยาบเหมือนกัน กามสุขจะไปขวางทางนำไปสู่นิรามิสสุข ซึ่งเป็นสุขชั้นเลิศ ท่านจึงจัดกามฉันทะไว้เป็นนิวรณ์ เครื่องกางกั้นความดี ที่เราต้องหมั่นระงับเนือง ๆ
 

บทสรรเสริญพระรัตนตรัยธิเบต โดย ท่าน Ani Choying Drolma (เว็บไซต์)

ฟังไม่รู้เรื่อง แต่น้ำตาซึม

 

เกิดบังดับ โลกบังธรรม งามบังผี ดีบังจริง สมมติบังวิมุตติ หลักธรรมบังพระนิพพาน

จาก : หลวงปู่ผู้ให้ (พระราชญาณวิสุทธิโสภณ - หลวงปู่ท่อนญาณธโร)

 

หลวงพ่อศิริ: ท่านบวชมา ๔ พรรษาแล้ว ละกิเลสตัวไหนได้บ้างล่ะ แล้วยังเหลือตัวไหนอีก
ภิกษุพรรรษา ๔: ... ("กิเลสที่ละได้แล้วก็ละได้แล้ว กิเลสที่ยังละไม่ได้ก็ยังเหลืออยู่" แต่คำตอบมันเหมือนกวน ๆ เราจะตอบท่านยังไงดี) ...
หลวงพ่อศิริ: อ้อ กิเลสที่ละได้แล้วก็ละได้แล้ว กิเลสที่ยังละไม่ได้ก็ยังเหลืออยู่เหรอ
ภิกษุพรรรษา ๔: ครับ _/|\_

 

มีคนถามหลวงพ่อจำเนียรว่าทำไมจึงมีปัญญามาก
ท่านตอบว่า เพราะท่านมีธรรมะ ๔ ประการดังนี้

  1. ทำตามหน้าที่ อย่าทำด้วยความอยาก การกระทำด้วยความชอบหรือไม่ชอบ ทำให้ปัญญาหายไปอย่างน้อยครึ่งนึง
  2. ยอมรับความจริง จงอย่าหนีความจริง การหนีความจริงทำให้จิตอ่อนแอลง เหมือนการปิดตาไปข้างหนึ่ง ทำให้การตัดสินใจผิดพลาด จงอย่ากลบเศษแก้วไว้ด้วยขี้เถ้า

Pages

Subscribe to RSS - wd's blog
 

Syndicate

Subscribe to Syndicate

Who's online

There are currently 0 users online.