แขยงแขงขน :
(V) ;
loathe ;
Related:feel a loathing for, have a nauseated feeling at the sight of, cause to goose-flesh ;
Syn:แขยงขน, สะอิดสะเอียน, ขยะแขยง, แสยงขน ;
Def:ทั้งเกลียดทั้งกลัวจนขนลุก ;
Samp:เธอไม่รู้สึกแขยงแขงขนบ้างเลยหรือที่เอางูมาพันคอเล่นอย่างนั้น
ไข่เจียว :
(N) ;
omelet ;
Related:fried beaten egg, omelette ;
Def:ไข่ที่ตีไข่แดงกับไข่ขาวให้เข้ากันแล้วทอดน้ำมัน ;
Samp:ผมขอไข่เจียวโปะข้าวฟองนึงด้วย
ครองเมือง : (V) ; govern a country ; Related:be at the helm of the state, administer a country, rule (over) a country, be in power ; Syn:ครองบ้านครองเมือง ; Samp:บ้านเมืองประสบปัญหาวิกฤติอีกครั้งในยุคคอมมิวนิสต์ครองเมือง
ครึ่งผีครึ่งคน :
(ADJ) ;
be on the threshold of death ;
Related:be at death's door, be on one's death bed, be in one's last gasps, be dying, near death, on the brink of death, extremely weak, of fatal end ;
Syn:ร่อแร่ ;
Def:จะเป็นจะตายเท่ากัน ;
Samp:ธุรกิจเหล่านี้โคม่าอยู่ในขั้นครึ่งผีครึ่งคน
คลายอารมณ์ :
(V) ;
relax ;
Related:rest, feel at ease, calm ;
Syn:ผ่อนคลายอารมณ์ ;
Samp:วัดมีลานกว้างให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่บ้านใกล้วัดไปเล่นกีฬาพักผ่อนคลายอารมณ์ในยามว่าง
เคอะเขิน :
(V) ;
be awkward ;
Related:be ill at ease, be uneasy, be shy, be uncomfortable, be embarrassed ;
Syn:อาย, เขิน, เก้อเขิน, เขินอาย ;
Ant:กล้า, มั่นใจ ;
Def:มีท่าทีไม่แนบเนียน ;
Samp:เมื่ออยู่ต่อหน้าสาธารณะชน เขาจะต้องเคอะเขินเป็นประจำ
งงเป็นไก่ตาแตก : (V) ; get confused ; Related:get into a muddle, be at a loss what to do, be at sea ; Def:งงมาก, งงจนทำอะไรไม่ได้ ; Samp:พอมาถึงกรุงเทพฯ หล่อนงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน
จนด้วยเกล้า :
(V) ;
be baffled ;
Related:be at one's wits' end ;
Syn:สุดคิด, คิดไม่ออก, หมดปัญญาคิด, จนปัญญา ;
Samp:ถ้าเจอข้อสอบหินแบบนี้ เห็นทีจะจนด้วยเกล้าแล้วแน่ๆ
จนตรอก :
(V) ;
be cornered ;
Related:maneuver, be checkmated, be stalled, be at bay ;
Syn:จนมุม, จนแต้ม, หมดหนทาง, สุดทางหนี ;
Samp:ถึงอย่างไรก็จะสู้จนกว่าจะจนตรอกนั่นแหล่ะ
จนแต้ม :
(V) ;
be cornered ;
Related:maneuver, be checkmated, be stalled, be at bay ;
Syn:จนมุม, จนตรอก, หมดทางสู้, หมดทางหนี ;
Samp:อย่าไปเซ้าซี้เขานักเลย ท่าทางเขาจะจนแต้มแล้วล่ะ
จวนตัว :
(V) ;
be cornered ;
Related:be at bay ;
Syn:คับขัน ;
Def:เข้าที่คับขัน, เข้าที่จำเป็น ;
Samp:ถึงอย่างไรถ้าจวนตัวจริงๆ เขาก็คงต้องตัดใจขายบ้านหลังนี้ไป
จับพลัดจับผลู :
(V) ;
take a random ;
Related:grab at random, occur unintentionally ;
Syn:ไม่ตั้งใจ, บังเอิญ ;
Ant:เจตนา, ตั้งใจ ;
Def:บังเอิญเป็นไปโดยไม่ตั้งใจ ;
Samp:กิตติจะโดนไล่ออกจากโรงเรียนเป็นประจำ แต่กระนั้นยังจับพลัดจับผลูได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
ใจชื้น :
(V) ;
feel relieved ;
Related:have a sense of relief, comfort, console, be at ease, be relaxed ;
Syn:เบาใจ, สบายใจ ;
Def:ไม่เดือดร้อน, สบายใจขึ้น ;
Samp:เขารู้สึกใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นตำรวจสายตรวจผ่านมา
ฉุนกึก :
(V) ;
be angry suddenly ;
Related:be suddenly enraged at/with, flare up, lose one's temper ;
Syn:โกรธ, โมโห, ขุ่นเคือง, ฉุนเฉียว ;
Def:โกรธขึ้นมาทันที ;
Samp:ฉันฉุนกึกและนึกโมโหตัวเองที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
ชอกช้ำระกำใจ :
(V) ;
be distressed ;
Related:sick at heart, hurt, be bruised, be shattered
ชายตาดู : (V) ; look sideways ; Related:look from the corner of the eyes, cast a sidelong glance at ; Syn:ชายตาแล ; Def:ชำเลืองมอง, ดูทางหางตา ; Samp:เธอชายตาดูผมอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าใดนัก
เชี่ยวชาญ :
(V) ;
be skilled ;
Related:be proficient, be expert at/in, be experienced ;
Syn:สันทัดจัดเจน, ช่ำชอง, ชำนิชำนาญ, จัดเจน ;
Samp:หมอท่านนี้เชี่ยวชาญด้านจักษุเป็นพิเศษ
ดูตัว : (V) ; meet for the first time ; Related:have a look at for the first time ; Def:พินิจพิจารณาผู้ที่ตนอยากเจอ ; Samp:สยุมพรพาคู่รักมาให้พ่อแม่ดูตัว
เด็กประถม :
(N) ;
pupil ;
Related:children at primary school, young boy ;
Syn:นักเรียนประถม
เดือด :
(V) ;
be angry ;
Related:rage at/against, be furious, be wrathful, boil with anger, be in a rage ;
Syn:โกรธมาก, พลุ่งพล่าน, เดือดดาล, โกรธเกรี้ยว, เกรี้ยวกราด, ฉุนเฉียว, กราดเกรี้ยว, บันดาลโทสะ, กริ้ว, ฉุน ;
Def:โกรธอย่างรุนแรง ;
Samp:คุณนายกำลังเดือดสาวใช้คนใหม่
ตกดึก :
(N) ;
night ;
Related:late at night, night time ;
Syn:ตกค่ำ
ต้องตา :
(V) ;
please the eye ;
Related:pleasant to the eye, good to look at ;
Syn:ถูกตา, ชวนมอง ;
Def:ทำให้น่าดูชวนมอง ;
Samp:รูปร่างของนางงามต้องตากรรมการอย่างมาก
ตะแคง :
(V) ;
lean ;
Related:incline, lie on one side, tilt, list, lie at an angle ;
Syn:เอียง ;
Ant:ตรง ;
Def:เอาข้างลง เช่น นอนตะแคง, หันข้างเข้า เช่น ตะแคงตัวเข้าไป ;
Samp:เมื่อผู้ป่วยมีอาการช็อกควรให้ใบหน้าของผู้ป่วยตะแคงข้างและให้ศีรษะอยู่ในระดับต่ำกว่าลำตัวเล็กน้อยเลือดจะได้ไม่ไหล
ตะเบ็งมาน :
(ADJ) ;
style of wearing the scarf-cloth of Thai (started from behind passed under the armpits across the chest and tied behind the neck) ;
Related:way of wearing a scarf crossed over the bosom and tied at the back of the neck ;
Syn:ตะแบงมาน ;
Def:วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวแล้วเอาชายทั้ง 2 ไขว้ไปผูกที่ต้นคอ ;
Samp:หญิงโบราณจะห่มผ้าแบบตะเม็งมานเวลาออกทำงานหรือเวลาบ้านเมืองคับขัน
ตะเบ๊ะ :
(V) ;
salute ;
Related:stand at salute ;
Def:ทำความเคารพด้วยวิธีทำวันทยหัตถ์ ;
Samp:ทหารผู้น้อยตะเบ๊ะทำความเคารพผู้บัญชาการที่เดินตรวจความเรียบร้อย
ตะแบงมาน :
(ADJ) ;
style of wearing the scarf-cloth of Thai (started from behind passed under the armpits across the chest and tied behind the neck) ;
Related:way of wearing a scarf crossed over the bosom and tied at the back of the neck ;
Syn:ตะเบ็งมาน ;
Def:วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวแล้วเอาชายทั้ง 2 ไขว้ไปผูกที่ต้นคอ
ตะลึง :
(V) ;
be dumbfound ;
Related:be stupefied, be at a loss, be stunned, be nonplussed, be taken aback, be in a daze, be spellbound ;
Syn:ตกตะลึง, งงงัน, ชะงักงัน, ตะลึงงัน, นิ่งงัน ;
Def:อาการที่ชะงักงันนิ่งอึ้งไปชั่วขณะหนึ่งเพราะคาดไม่ถึง ;
Samp:ทุกคนตะลึงเมื่อเห็นความงามของธรรมชาติ ที่ยังคงสวยสดงดงามราวกับภาพวาด
ตะลุมพุก 1 :
(N) ;
mallet ;
Related:rice-pounding mallet, pestle with a handle at right angles ;
Syn:ไม้ตำข้าว, กระลุมพุก ;
Def:ไม้ท่อนกลมๆ มีด้ามคล้ายค้อน แต่ใหญ่กว่ามาก ;
Samp:ชาวบ้านใช้ไม้ตะลุกพุกตำข้าว ;
Unit:อัน, ท่อน
ตะลุย :
(ADV) ;
dabble in ;
Related:dabble at ;
Syn:ผ่านๆ ตา ;
Def:อาการที่อ่านเรื่อยไปโดยไม่พินิจพิจารณา ;
Samp:เขาต้องอ่านหนังสือสอบหลายเล่ม บางเล่มต้องอ่านอย่างละเอียดแต่บางเล่มแค่อ่านตะลุยผ่านๆ ตาก็พอแล้ว
ตามสบาย :
(ADV) ;
leisurely ;
Related:easily, comfortably, do as one pleases, do at one's own convenience ;
Def:อย่างไม่มีพิธีรีตรอง, อย่างเป็นกันเอง, อย่างธรรมดา ;
Samp:เขากล่าวกับเพื่อนที่มารับประทานอาหารที่บ้านว่า ให้ทุกคนทำตัวตามสบายเหมือนเป็นบ้านตัวเอง
ตำรวจหลวง : (N) ; palace police ; Related:palace guard, sergeants at arms in the royal palace ; Def:ข้าราชการในพระองค์ มีหน้าที่พิทักษ์รักษาองค์พระมหากษัตริย์และพระราชินีในงานพระราชพิธี ; Samp:ตอนน้องชายเขาเกิด คุณพ่อของเขาได้เลื่อนยศเป็นตำรวจหลวงรักษาพระองค์ ; Unit:คน, นาย
ตีท้ายครัว :
(V) ;
intrigue ;
Related:have a dealing on the sly or at the back door, make friends with the wife or family of a party for purpose of personal gain ;
Def:เข้าติดต่อตีสนิททางภรรยา (มักใช้ในทางชู้สาว) ;
Samp:เป็นเพื่อนกันอยู่ดี ๆ เขาก็แอบมาตีท้ายครัวเสียแล้ว
เต็มอัตรา : (V) ; (job) be full ; Related:be at full quota/strength ; Def:เต็มขนาดที่กำหนดไว้, เต็มตามกำหนด ; Samp:เมื่อคนประจำกองเต็มอัตรา โต๋จึงได้งานในฐานะฟรีแลนซ์รับเขียนภาพประกอบให้นิตยสารดิฉัน
เตรียมตรม :
(V) ;
be grieved ;
Related:be sore at heart, sorrow ;
Syn:ตรมเตรียม, เกรียมกรม, กรมเกรียม ;
Def:ระทมใจจนหม่นไหม้ ;
Samp:ใจของแม่เตรียมตรมถึงลูกยา
แตกฉาน :
(V) ;
be proficient in ;
Related:sharpen, be expert at/in, be dexterous, be masterful ;
Syn:เชี่ยวชาญ, เข้าใจแจ่มแจ้ง, ชำนาญ, ชำนิชำนาญ ;
Samp:เราจะต้องฝึกฝนตนเองให้แตกฉานและแม่นยำชำนาญ ทั้งในวิชาความรู้และวิธีสอน เพื่อสามารถสั่งสอนได้อย่างกระจ่าง
แตกสามัคคี :
(V) ;
be disunited ;
Related:be divided, be at sixes and sevens ;
Syn:แตกแยก ;
Ant:กลมเกลียว, สามัคคี, สามัคคีกลมเกลียว ;
Def:แยกออกไปเป็นพวกเป็นเหล่า ;
Samp:หากเรามีความประมาท เราแตกสามัคคีกันเมื่อใด เราก็จะเป็นอันตรายย่อยยับลงเมื่อนั้น
ถึงที่ :
(V) ;
be doomed to die ;
Related:be to the final end, have reached the inevitable, be at the end of one's resources ;
Syn:ถึงคราวตาย, ถึงฆาต, ถึงคราว ;
Samp:แม่ปลงได้แล้วว่าลูกชายคงจะถึงที่จึงได้ตายไป
ทอดสายตา :
(V) ;
cast a look ;
Related:look at ;
Syn:ทอดตา, ทิ้งสายตา ;
Def:ใช้สายตาเป็นสื่อ ;
Samp:ขณะที่รถกำลังแล่นไปเรื่อยๆ เขาก็ทอดสายตามองชีวิตผู้คนและตึกรามบ้านช่องตามข้างถนน