ตะบิ้ง : น. นาที่เป็นกระทงเล็ก ๆ, กระบิ้ง ก็เรียก.
ตะบิด : ก. บิด เช่น โพกผ้าพันตะบิดถือกริชกราย. (อิเหนา).
ตะบิดตะบอย : ว. แกล้งให้ชักช้า, ชักช้ารํ่าไร.
ตะบี้ตะบัน : (ปาก) ว. ซํ้า ๆ ซาก ๆ, ไม่รู้จักจบจักสิ้น, ไม่เปลี่ยนแปลง, เช่น เถียงตะบี้ตะบัน.
ตะบึง : ว. รีบเร่งไปไม่หยุดหย่อน เช่น ควบม้าตะบึงไป.
ตะบุ้ย, ตะบุ้ย ๆ : (ปาก) ว. อาการที่บอกส่ง ๆ ไปหรือทําให้พ้น ๆ ไป.
ตะบูน : น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ในสกุล Xylocarpus วงศ์ Meliaceae ขึ้นตามป่าชายเลน และริมแม่นํ้าที่นํ้าเค็มขึ้นถึง มี ๒ ชนิด คือ ตะบูนขาว หรือ กระบูน (X. granatum Koenig) เปลือกสีนํ้าตาลแกมแดง ผลขนาดส้มโอ และ ตะบูนดํา [X. moluccensis (Lam.) M. Roem.] เปลือกสีนํ้าตาลแกมดํา ผลขนาดส้มเกลี้ยง.
ตะเบ็ง : ก. เบ่งเสียงออกให้ดังเกินสมควร.
ตะเบ็งมาน : ว. วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวแล้วเอาชายทั้ง ๒ ไขว้ไปผูกที่ต้นคอ, ตะแบงมาน ก็ว่า.
ตะเบ๊ะ : (ปาก) ก. ทำความเคารพอย่างคนในเครื่องแบบ คือ ทำวันทยหัตถ์.
ตะแบก : น. ชื่อไม้ต้นหลายชนิดในสกุลLagerstroemia วงศ์ Lythraceae ผิวเปลือก เรียบล่อนเป็นสะเก็ด ดอกสีม่วง เช่น ตะแบกนา (L. floribunda Jack).
ตะแบง ๑ : ว. อาการที่พูดหรือเถียงเฉไฉหรือดันไปข้าง ๆ คู ๆ.
ตะแบงมาน : ว. วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวแล้วเอาชายทั้ง ๒ ไขว้ ไปผูกที่ ต้นคอ, ตะเบ็งมาน ก็ว่า.
ตะโบม : ก. เล้าโลม, โอบกอด.
ตะไบ : น. เหล็กเครื่องมือใช้ถูไม้หรือโลหะอื่น ๆ ให้เกลี้ยงเกลาเป็นต้น มีหลายชนิด เช่น ตะไบท้องปลิง ตะไบหางหนู. ก. ถูด้วยตะไบ เช่น ตะไบเล็บ.
ตะไบเล็บ : น. อุปกรณ์แต่งเล็บมักทำด้วยโลหะ มีลักษณะแบนยาวที่ผิวหน้าทั้ง ๒ ด้านบั้งเป็นรอยหยาบ ๆ สำหรับถูเล็บ.
ตะปบ : ก. ตบด้วยอุ้งมือหรืออุ้งเท้าหน้า เช่น เสือตะปบ, ปบ ก็ว่า.
ตะปลิง : น. เหล็กที่ทำเป็นหมุดแหลมโค้งสำหรับตอกเพลาะกระดานยึดให้แน่นสนิท เช่น ตะปูตะปลิงยิงตรึงกระชับชิด. (ม. ร่ายยาว กุมาร), เขี้ยวตะขาบ ตัวปลิง หรือ ปลิง ก็เรียก.
ตะปัดตะป่อง : ว. สะบัดสะบิ้ง, แสนงอน, กระตุ้งกระติ้ง, ตุปัดตุป่อง ก็ใช้.
ตะปิ้ง : น. เครื่องปิดของลับของเด็กหญิง ทําด้วยเงิน ทอง หรือนาก เป็นต้น, กระจับปิ้ง จะปิ้ง จับปิ้ง หรือ ตับปิ้ง ก็เรียก.
ตะปุ่มตะป่ำ : ว. นูนขึ้นเป็นปม ๆ, เป็นปุ่มเป็นปมขรุขระอย่างผิวมะกรูด, ปุ่มป่ำ ก็ว่า.
ตะปู : น. สิ่งทําด้วยโลหะ มีปลายแหลม หัวมนแบน ขนาดต่าง ๆ กัน สําหรับตรึงสิ่งอื่น ให้แน่นโดยใช้ค้อนเป็นต้นตอกลงไป, ตาปู ก็เรียก.
ตะปูเข็ม : น. ตะปูที่มีขนาดเล็กมาก.
ตะปูควง : น. ตะปูที่มีเกลียว หัวเป็นร่องหรือเป็น ๔ แฉก ใช้ไขควงไข.
ตะปูหัวเห็ด : น. ตะปูที่มีหัวบานเหมือนดอกเห็ด สําหรับตอกสังกะสีเป็นต้น.
ตะพง : (แบบ) ว. ตะโพง เช่น แล้วตะพงพายรีบกลับไป. (นิ. เมืองเทศ).
ตะพด : น. ไม้ถืออย่างหนึ่งทําด้วยไม้รวกเป็นต้น ยาวประมาณ ๑ เมตร.
ตะพอง : น. ส่วนที่นูนเป็นปุ่ม ๒ ข้างศีรษะช้าง, กระพอง กะพอง หรือ ตระพอง ก็ว่า.
ตะพัก : น. ที่ราบใต้น้ำข้างตลิ่ง มีลักษณะเป็นขั้น ๆ แคบ ๆ ลดต่ำลง เกิดจากแผ่นดิน สูงขึ้นหรือ ต่ำลงเป็นครั้งคราว หรือเกิดจากถูกคลื่นเซาะ อาจสูงหลายเมตร ก็ได้; ตะกอนที่ทับถมในทะเล เป็นรูปขั้นบันได, ผาชันในทะเลที่ถูกคลื่นกัดเซาะ ขยายตัวออกไปจนเป็นลาน ซึ่งเรียกว่า ลานตะพักคลื่นเซาะ; โขดหินหรือ ไหล่เขาที่เป็นขั้น ๆ พอพักได้, ใช้ว่า กระพัก ก็มี, เช่น บ้างก็เป็นกระพัก กระเพิงกระพังพุ. (ม. ร่ายยาว กุมาร).
ตะพัง : น. แอ่ง, บ่อ, หนอง, กระพัง ตระพัง หรือ สะพัง ก็เรียก. (เทียบ ข. ตฺรพำง ว่า บ่อที่เกิด เอง).
ตะพัด ๑ : ว. อาการที่เคลื่อนไหวเรื่อยไปอย่างรวดเร็วดุจกระแสนํ้าไหล, สะพัด ก็ว่า.
ตะพัด ๒ : น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Scleropages formosus ในวงศ์ Osteoglossidae หรือชนิดอื่นในสกุลเดียวกันที่พบในประเทศข้างเคียง เป็นปลาโบราณที่ยังมี พืชพันธุ์สืบมาจนถึงปัจจุบัน ลําตัวยาว แบนข้างตลอด แนวด้านข้างของสันหลัง ตรงโดยตลอดแนวสันท้องโค้ง ปากเชิดขึ้น ครีบหลังและครีบก้นอยู่ใกล้ครีบหาง มาก ขอบหางกลมเกล็ดใหญ่ เส้นข้างตัวอยู่ใกล้แนวสันท้อง พื้นลําตัวเป็นสีเงิน อมเทาหรือสีฟ้า พบเฉพาะบริเวณแหล่งนํ้าเขตภูเขาในจังหวัดตราด จันทบุรี และระยอง รวมทั้งบางจังหวัดในเขตภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี ขนาดยาวได้ถึง ๙๐ เซนติเมตร.
ตะพั้น : น. ชื่อโรคชนิดหนึ่ง มักเกิดแก่เด็กอ่อนหรือเด็กเล็ก ๆ มีอาการชัก มือเท้ากํา ตามตํารา แพทย์แผนโบราณว่ามักเกิดเพราะผิดอากาศเป็นต้น, สะพั้น ก็ว่า.
ตะพาก : น. ชื่อปลาตะเพียนขนาดกลางชนิด Puntius daruphani ในวงศ์ Cyprinidae เกล็ดใหญ่สีเหลือง พบตามแม่นํ้าสายใหญ่ ๆ, กระพาก ก็เรียก.
ตะพาน : น. สิ่งปลูกสร้างที่ทําสําหรับข้ามแม่นํ้าลําคลองเป็นต้น บางทีทํายื่นลงไปในนํ้า สําหรับขึ้นลง, โดยปริยายหมายความว่า สื่อเชื่อมโยง, สะพาน ก็ว่า.
ตะพานช้าง : น. สะพานที่ทําแข็งแรงสําหรับให้ช้างข้ามในสมัยโบราณ.
ตะพานหนู : น. สะพานหนู.
ตะพาบ, ตะพาบน้ำ : น. ชื่อเต่านํ้าจืดกระดองอ่อนหลายสกุลในวงศ์ Trionychidae กระดองอ่อนนิ่ม มีเชิงแผ่กว้าง ตีนเป็นแผ่นแบนคล้ายพาย หลายชนิดมีจมูกยื่นยาว ในประเทศ ไทยมีหลายชนิด เช่น ตะพาบ (Amyda cartilageneus) ม่านลาย (Chitra chitra), กริว กราว จราว จมูกหลอด หรือปลาฝา ก็เรียก.
ตะพาย : ก. แขวนบ่า, ห้อยเฉียงบ่า, เช่น ตะพายย่าม, สะพาย ก็ว่า; เรียกกิริยาที่เอา เชือกร้อยช่องจมูกวัวควายที่เจาะว่า สนตะพาย, ใช้โดยปริยายแก่คนว่า ถูกสนตะพาย หรือ ยอมให้เขาสนตะพาย หมายความว่าถูกบังคับให้ยอม ทำตามด้วยความจำใจ ความหลง หรือความโง่เขลาเบาปัญญา; เรียกเชือก ที่ร้อยจมูกวัวควายว่า สายตะพาย. น. ช่องจมูกวัวควายที่เจาะสําหรับร้อย เชือก; เรียกลายที่เป็นทางแต่จมูกขึ้นไปทั้ง ๒ ข้างแห่งนกกระทา.
ตะพายแล่ง : ว. ลักษณะที่ถูกฟันขาดเฉียงบ่า เรียกว่า ขาดตะพายแล่ง, สะพายแล่ง ก็ว่า.
ตะพึด : ว. ตะบึงไป, ไม่หยุดหย่อน, เช่น ขอตะพึด.
ตะพึดตะพือ : ว. รํ่าไป, เรื่อยไป, ดึงดันทําเรื่อยไป.
ตะพุ่น ๑ : (โบ) น. พวกคนหลวงที่ถูกเกณฑ์ให้เกี่ยวหญ้าเลี้ยงช้าง.
ตะพุ่น ๒ : ว. สีชนิดหนึ่งคล้ายสีครามจาง เรียกว่า สีตะพุ่น.
ตะพุ่นหญ้าช้าง : (โบ) น. โทษอาญาหลวงสมัยโบราณ; คนที่ถูกลงโทษให้เกี่ยวหญ้า เลี้ยงช้าง.
ตะเพรา : [-เพฺรา] น. ไม้ขอสําหรับเกี่ยวให้เรือเข้าหรือคํ้าไม่ให้เรือชนกัน เรียกว่า ขอตะเพรา; ลูกกลม ๆ ที่ถักด้วยหวายแล้วยัดด้วยกาบมะพร้าวเป็นต้น แขวนไว้ข้างเรือเพื่อกัน กระแทกเรียกว่า ลูกตะเพรา.
ตะเพิง : น. เงื้อมเขาที่งอกงุ้มลงมา.
ตะเพิด : ก. ตวาดให้หนีไป, ร้องให้ตกใจหนีไป, ไล่ส่งไป, โบราณเขียนเป็น กระเพลิด ก็มี.
ตะเพิ่น : ว. พล่านไป, เจิ่นไป.