อกมฺมกิริยาอกมฺมกฺริยา : (อิต.) กิริยาไม่มีกรรม คือกิริยาที่ได้ความสมบรูณ์มิต้องมีกรรมคือผู้ถูกทำมารับ, กิริยาที่ไม่ต้องเรียกหากรรม
อกมฺห : ก. ได้กระทำแล้ว
อกรณ : (นปุ.) การไม่ทำ, การงดเว้น, ความไม่ทำ. ความงดเว้น, นปุพฺโพ, กร. กรเณ, ยุ. น บทหน้า กรฺ ธาตุในความทำ ยุ ปัจ.
อกรณีย : (วิ.) กิจอัน...ไม่พึงทำ.
อกรณียกิจฺจ : (นปุ.) กิจอัน....ไม่พึงทำ, กิจอัน....ไม่ควรทำ, อกรณียกิจ.กิจอันบรรพชิตไม่ควรทำ (ทำไม่ได้) มี๔ อย่าง.ความเป็นจริงกิจที่บรรพชิตไม่ควรทำทั้งสิ้น ชื่ออกรณียกิจ ที่ท่านยกขึ้นกล่าวเพียง ๔ อย่างนั้นกล่าวเฉพาะข้อที่สำคัญซึ่งล่อแหลมต่อการขาดจากความเป็นบรรพชิตและเพื่อให้เหมาะแก่เวลาเมื่ออุปสมบทเสร็จ.อกรณียกิจของคนทั่วไปได้แก่ กายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต.
อกริสฺส : ก. จักได้ทำแล้ว
อกโรนฺต : กิต., ค. ไม่ทำอยู่, เมื่อไม่ทำ
อกลฺล : (นปุ.) ความเจ็บไข้, ความไม่สบาย, โรค. วิ. น กลติ เยน ตํ อกลํ.ตเมวอกลฺลํ. กล. คติสํขฺยาเนสุ, โล สกตฺเถ, ณฺย วา.น บทหน้า กลฺ ธาตุ อ ปัจ.ลสกัด หรือ ณฺย ปัจ. แปลง ลฺย เป็นลฺล.
อกลห : (ปุ.) การไม่ทะเลาะกัน.
อกลุ : (นปุ.?) กำยาน, กฤษณา, สารขาว.
อกองฺก : (ปุ.) เครื่องหมาย, รอย, สาย, แถว, แนว, รายเรื่อง ส่วน หรือสิ่งที่แยกกล่าวเป็นรายๆ, องก์ ตอนหนึ่งๆหรือชุดหนึ่งๆของเรื่องละคร ฉากหนึ่ง ๆ ของละคร.อํกฺ อกิ วา องฺก วา ลกฺขเณ, ฮ. ส. องฺก.
อก องฺก : (ปุ.) เครื่องหมาย, รอย, สาย, แถว, แนว, รายเรื่อง ส่วน หรือสิ่งที่แยกกล่าว เป็นรายๆ, องก์ ตอนหนึ่งๆหรือชุดหนึ่งๆ ของเรื่องละคร ฉากหนึ่ง ๆ ของละคร. อํกฺ อกิ วา องฺก วา ลกฺขเณ, ฮ. ส. องฺก.
อกาจ : ค. สะอาด, บริสุทธิ์
อกามก : ค. ไม่พอใจ,ไม่ใยดี
อการ : (วิ.) มิใช่ผู้ทำ, มิใช่ช่าง, มิใช่หน้าที่.
อการณ : (วิ.) มิใช่เหตุ, ไม่ใช่เหตุ.
อการิย : (วิ.) (กิจ) อัน....ไม่พึงทำ, อัน.....ไม่ควรทำ.
อกาล : (วิ.) มิใช่กาล, มิใช่ฤดูกาล, ไม่ใช่กาล.
อกาลจีวร : (นปุ.) ผ้าอันเกิดขี้นในสมัยมิใช่กาล, ผ้าที่ทายกทายิกาถวายนอกเขตฤดูกาล (ที่ทรงอนุญาต) คือผ้าที่เกิดขึ้นนอกเขตกาลจีวร, อกาลจีวร.อกาลจีวรมีกำหนดดังนี้ถ้าภิกษุไม่ได้กรานกฐินมีกำหนด ๑๑ เดือน ตั้งแต่ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ถึนขึ้น ๑๕ค่ำ เดือน ๑๑ ถ้าได้กรานกฐินมีกำหนด ๗ เดือน คั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๔ ถึงขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ไตร. ๒/๓๔.
อกาลิก : (วิ.) ประกอบด้วยกาลหามิได้, ไม่ประกอบด้วยกาล, ให้ผลมิได้เลือกซึ่งกาล, ให้ผลไม่เลือกเวลา, ให้ผลตลอดเวลา, ให้ผลทุกเวลา. เป็นคุณบทของพระธรรมบทที่ ๓ ใน ๖ บทพระพุทธศาสนาสอนว่าการทำความดีหรือความชั่วไม่เกี่ยวกับฤกษ์ยามทำเวลาไหนได้ผลทั้งสิ้น จะเป็นผลดีหรือชั่วแล้วแต่การทำ
อกาลิย : (วิ.) ไม่เป็นไปในกาล, ไม่ประกอบด้วยกาล, ฯลฯ.
อกาสิ : ก. ได้ทำแล้ว
อกิจฺจการ : ค. ผู้ไม่ทำตามหน้าที่ของตน, ผู้ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ,ไม่มีผล (ยา).
อกิจฺฉ : (วิ.) ง่าย, ไม่ลำบาก, ไม่ฝืดเคือง, สบาย, สุข. นปุพฺโพ, กิรฺ วิกฺขิปเน, โฉ. ลบ ร. ซ้อนจ. หรือ แปลง รฺ เป็น จฺ.
อกิจฺฉน : (วิ.) หมดความขวนขวายในการงาน วิ. นตฺถิ กิญจนํ ยสฺส โส อกิญฺจโน.จน, เข็ญใจ.วิ.นตฺถิกิญฺจนํ อปฺปมตฺตมฺปิธนํ ยสฺส โส อกิญฺจโน. ส. อกิญจน.
อกิญฺจน : (วิ.) มีกิเลสเครื่องกังวลไม่มี, ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล, ไม่มีกิเลสชาตเครื่องกังวล, ไม่มีความกังวล, ไม่มีห่วงใย, ปลอดโปร่ง. นปุพฺโพ, กิจิ มทฺทเนทเน, ยุ, นิคฺคหิตาคโม,
อกิญฺจิ : (อัพ. นิบาต) เล็กน้อย, นิดหน่อย.
อกิตฺติ : (อิต.) วาจาไม่ใช่วาจาเครื่องสรรเสริญ, วาจาเป็นปฎิปักษ์แก่วาจาสรรเสริญ, การนินทา, การติเตียน, ความนินทา, ความติเตียน, ความไม่มีมีเกียรติ, ความเสื่อมเกียรติ.
อกิริย : ๑. นป. การไม่กระทำ;
๒. ค. ไม่ควรทำ
อกิริยทิฏฐิ : (อิต.)ความเห็นว่ากรรมอันบุคคลทำแล้วไม่เป็นอันทำ. ความเห็นว่าบุญหรือบาปที่บุคคลทำแล้วไม่เป็นอันทำ คือเห็นว่าทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วไม่ได้ชั่ว.
อกิริยวาท : (วิ.) ผู้มีวาทะว่า อ. กรรมอันบุคคลทำแล้วไม่ชื่อว่าเป็นอันทำ, ผู้มีวาทะว่ากรรมอันบุคคลทำแล้วไม่ชื่อว่าเป็นอันทำ, ผู้มีลัทธิเป็นเครื่องกล่าวกรรมไม่ชื่อว่าอันบุคคลทำ, ฯลฯ.
อกิริยา : (อิต.)กิริยาอันไม่ควร.
อกิลมน : (วิ.) มีความลำบากหามิได้, ไม่มีความลำบาก, มิใช่ความลำบาก, มีความเหน็ดเหนื่อยหามิได้, ฯลฯ นปุพฺโพ, กิลมุ คิลาเน, ยุ.
อกิลาสุ : (ปุ.) คนไม่เกียจคร้าน, คนหมั่น, คนขยัน.
อกุฎิล : ค. ไม่คดโกง
อกุโตภย : ค. หาภัยแต่ที่ไหนมิได้, ไม่มีภัย
อกุปฺป : ค. ไม่กำเริบ, ไม่หวั่นไหว, ถาวร
อกุปฺปตา : อิต. ความไม่กำเริบ, ความไม่หวั่นไหว, ความถาวร
อกุสล : (วิ.) ผู้มีความฉลาดหามิได้, ผู้มีความดีหามิได้, วิ. นตฺถิ ตสฺส กุสลนฺติอกุสลํ. มิใช่ความฉลาด, มิใช่ความดี วิ.น กุสลํ อกุสลํ. ส. อกุศล.
อกุสลกมฺม : (นปุ.) กรรมมิใช่ความฉลาด, กรรมมิใช่ความดี, กรรมชั่วร้าย, อกุศลกรรม (โทษ บาป).
อกุสลกมฺมปถ : (ปุ.) ทางแห่งกรรมมิใช่กุศล, ทางแห่งความชั่ว, อกุศลกรรมบถ มี ๑๐ คือกายทุจริต๓ วจีทุจริต๔ มโนทุจริต๓.
อกุสลจิตฺต : (นปุ.) จิตอันเป็นอกุศล, อกุศลจิต คือจิตที่มีความชั่ว เป็นจิตที่ประกอบด้วยอกุศลเจตสิก ได้แก่ โลภมูลจิต ๘โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒.
อกุสลเจตนา : (อิต.) ความคิดอันเป็นบาป, ความนึกอันเป็นบาป, ความตั้งใจอันเป็นบาป, ความคิดชั่ว, ความคิดอันเป็นอกุศล, เจตนาอันเป็นอกุศล. ส. อกุศลเจตนา.อ
อกุสลเจตสิก : (ปุ.) เจตสิกธรรมที่เป็นอกุศล, เจตสิกที่เป็นอกุศล.
อกุสลเจตสิกธมฺม : (ปุ.) เจตสิกธรรมอันเป็นอกุศล, อกุศลเจตสิกธรรม มี ๑๔ ดวง คือ โมหะ อหิริกะ อโนตัปปะ อุทธัจจะ โลภะ ทิฏฐิ มานะ โทสะ อิสสามัจฉริยะ กุกกุจจะ ถีนะ มิทธะ และ วิจิกิจฉา.
อกุสลมูล : (นปุ.) รากเหง้าแห่งความชั่ว, รากเหง้าแห่งบาป, รากเหง้าแห่งอกุศล มี ๓ คือ โลภะ โทสะ และ โมหะ.
อกุสองฺกุส : (ปุ.) ขอ (ไม้หรือเหล็กที่งอๆสำหรับใช้ชักเกี่ยวสับ), ขอเกี่ยว, ขอช้าง.วิ. อํเกติ อเนนาติ อํกุโส องฺกุโส วาอํกฺลกฺขเณ, โส, อสฺส อุ (แปลงอเป็นอุ).เวส ฯ๕๘๘ลง อุ อาคม. ส. องฺกุศองฺกุศสฺ
อกุส องฺกุส : (ปุ.) ขอ (ไม้หรือเหล็กที่งอๆ สำหรับใช้ชักเกี่ยวสับ), ขอเกี่ยว, ขอช้าง. วิ. อํเกติ อเนนาติ อํกุโส องฺกุโส วา อํกฺ ลกฺขเณ, โส, อสฺส อุ (แปลง อ เป็น อุ). เวส ฯ ๕๘๘ ลง อุ อาคม. ส. องฺกุศ องฺกุศสฺ
อโกลองฺโกล : (ปุ.) ต้นปรู. อํกฺ ลกฺขเณ, โอโล.เป็น องฺโกรโดยลงโอรปัจ.ก็มี.
อโกล องฺโกล : (ปุ.) ต้นปรู. อํกฺ ลกฺขเณ, โอโล. เป็น องฺโกร โดยลง โอร ปัจ. ก็มี.